ส่องสถิติ 5 ชาติ นำเข้ามะม่วงไทยสูงสุด ออเดอร์พุ่ง 4.7 พันล้านบาท

02 มี.ค. 2568 | 08:41 น.
อัปเดตล่าสุด :02 มี.ค. 2568 | 08:48 น.

เปิดตัวเลขส่งออกมะม่วงสดไทยปี 2567 ทะลุ 4,716 ล้านบาท โต 45.68% เกาหลีใต้ครองตลาดอันดับ 1 ด้วยมูลค่า 2,931 ล้านบาท โต 132.7% หลังลดภาษีเหลือ 0% จากเดิม 30% และกระแส Soft Power ข้าวเหนียวมะม่วง

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกมะม่วงสดของไทยตลอดปีที่แล้ว มีมูลค่ารวม 4,716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.68%

 

ตลาดส่งออกมะม่วงไทย 5 อันดับแรก

 

1.เกาหลีใต้ 2,931 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132.7% สัดส่วน 62.2% ของมูลค่าการส่งออกมะม่วงสดของไทย

 

2.มาเลเซีย 1,191 ล้านบาท ลดลง 12.8% สัดส่วน 25.3%

 

3.ญี่ปุ่น 139 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.8% สัดส่วน 3.0%

 

4.เวียดนาม 131 ล้านบาท ลดลง 15.7% สัดส่วน 2.8%

 

5.สปป.ลาว 38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.3% สัดส่วน 0.8%
 

นายอนุกูล กล่าวว่า สาเหตุเกาหลีใต้ได้ก้าวขึ้นมาอันดับที่ 1 ตลาดส่งออกมะม่วงสดของไทย แซงหน้ามาเลเซีย เป็นผลจากมาตรการของรัฐบาลเกาหลีใต้ ที่ขยายปริมาณโควตานำเข้าผลไม้เขตร้อน และลดภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรชั่วคราว เพื่อลดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคและลดปัญหาขาดแคลนสินค้าในประเทศ โดยปรับอัตราภาษีมะม่วงและมังคุดเหลือ 0% จากเดิม 30% และทุเรียนเหลือ 5% จากเดิม 45% ส่งผลให้มะม่วงไทยเป็นที่ต้องการมากขึ้น

 

นอกจากนี้ มะม่วงไทยเป็นที่ต้องการในเกาหลีใต้มาจากกระแส Soft Power ของไทย โดยเฉพาะ “ข้าวเหนียวมะม่วง” ที่ได้รับความนิยมจากสื่อโซเชียลมีเดีย รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคเกาหลีใต้ที่นิยมรับประทานผลไม้สดหลังอาหารหรือเป็นอาหารว่าง

สำหรับตลาดมาเลเซีย ยังคงเป็นตลาดสำคัญสำหรับมะม่วงสดจากไทย เนื่องจากความนิยมบริโภคผลไม้สดและนำไปทำเครื่องดื่มปั่น Mango Shake ขณะที่ญี่ปุ่นต้องการมะม่วงสดเพิ่มขึ้นตามกระแสรักสุขภาพ และการนำมะม่วงไปใช้ในอุตสาหกรรมขนมหวาน เป็นต้น

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันเกาหลีใต้อนุญาตนำเข้าผลไม้จากไทยได้เพียง 6 ชนิด คือ มะม่วง มังคุด ทุเรียน กล้วย มะพร้าว และสับปะรด แต่ชาวเกาหลีใต้มีการรับรู้เกี่ยวกับรสชาติและคุณภาพของผลไม้ไทยเป็นอย่างดีผ่านสื่อโซเชียลและนักท่องเที่ยวที่เคยเดินทางมาไทย โดยเฉพาะมะม่วง มังคุด และทุเรียน ผลไม้ไทยได้รับการยอมรับจากชาวเกาหลีใต้ว่าเป็นสินค้าพรีเมียมคุณภาพสูง หากไทยสามารถรักษามาตรฐานคุณภาพ และความสดใหม่ของผลิตภัณฑ์ได้ต่อเนื่อง ก็จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดได้มากขึ้น

 

นอกจากนี้ ไทยอยู่ระหว่างการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (Economic Partnership Agreement) กับเกาหลีใต้ หากมีการเจรจาลดภาษีผลไม้ลงมาอีก ก็จะช่วยสนับสนุนการส่งออกมะม่วงและผลไม้ของไทยให้เติบโตได้เป็นอย่างดี

 

นายอนุกูลกล่าวต่อว่า ปัจจุบันมะม่วงไทยได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) แล้วจำนวน 12 ชนิด ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองพิษณุโลก มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองบางคล้า มะม่วงน้ำดอกไม้คุ้งบางกระเจ้า มะม่วงน้ำดอกไม้สระแก้ว มะม่วงเบาสงขลา มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองบ้านโหล๋น มะม่วงยายกล่ำนนทบุรี มะม่วงน้ำดอกไม้สมุทรปราการ มะม่วงมันหนองแซงสระบุรี มะม่วงเขียวเสวยแปดริ้ว มะม่วงขายตึกแปดริ้ว และมะม่วงแรดแปดริ้ว

 

“รัฐบาลไทยมุ่งมั่นส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรรมไทยให้เติบโตไปพร้อมกับตลาดโลก โดยการรักษามาตรฐานคุณภาพและผลักดันผลไม้ไทยให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทย และเสริมความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจไทยในระยะยาว” นายอนุกูล ระบุ