นางสาวนุสรา กาญจนกูล อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2568 ชุดปฏิบัติการมีการปราบปรามและดำเนินคดีกับผู้จำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้งสิ้น 50 คดี ของกลางจำนวน 16,975 ชิ้น อาทิ กระเป๋า รองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า มูลค่าความเสียหายกว่า 15 ล้านบาท
ทั้งนี้ทางกรมฯ ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง โดยผนึกกำลังกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และเอกชนเจ้าของสิทธิในงานทรัพย์สินทางปัญญา จัดชุดปฎิบัติการลงพื้นที่ปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาทั่วประเทศ
ล่าสุดกรมฯ พร้อมด้วยตัวแทนเจ้าของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา อาทิ บริษัท ซีเล็คทีฟ เทรดมาร์คยูเนี่ยน (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท สัตยะพล แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด บริษัท ติลลิกีแอนด์กิบบินส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท อาร์.ดับบลิว.ที. อินเตอร์เนชั่นแนล ลอว์ ออฟฟิศ จำกัด
ร่วมลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ มหาสารคาม ขอนแก่น นครพนม ร้อยเอ็ด นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สุราษฏร์ธานี พระนครศรีอยุธยา ศูนย์การค้าเอ็มบีเคเซ็นเตอร์ ประตูน้ำ ศูนย์การค้าแพลทินัม และสำเพ็ง เพื่อตรวจสอบตรวจค้นและจับกุมผู้จำหน่ายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
ขณะเดียวกัน การปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการฯ ส่วนหนึ่งเป็นคดีที่มีการสืบสวนจากแหล่งจำหน่ายสินค้าผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญในการตรวจสอบและปราบปรามแหล่งจำหน่ายสินค้าดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
สำหรับบทลงโทษของการจำหน่ายสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า มีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี ปรับสูงสุด 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ มีโทษจำคุกสูงสุด 4 ปี หรือปรับสูงสุด 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ