Plan B เดือด ชี้แจงปมสัมปทาน ‘ขสมก.’ ยันข้อพิพาทเก่า 20 ปี ศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้ว

16 ธ.ค. 2568 | 10:01 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ธ.ค. 2568 | 10:06 น.

Plan B แถลงโต้ ยันข้อพิพาทสัมปทาน ขสมก. หลังถูกร้องเรียนถึงนายกฯ เป็นคดีเก่า 20 ปี เผยศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้ว 21 คดี ลั่นข้อกล่าวหาไม่มีมูลทางกฎหมาย จ่อดำเนินคดีรื้อฟื้นประเด็นเดิม สร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อสาธารณชน

KEY

POINTS

  • แพลน บี ชี้แจงกรณีข้อร้องเรียนสัมปทานกับ ขสมก. ว่าเป็นข้อพิพาทเก่าเกือบ 20 ปี ซึ่งได้ผ่านกระบวนการยุติธรรมครบถ้วนแล้ว
  • ศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีที่เกี่ยวข้องรวม 21 คดี โดยวินิจฉัยว่าข้อกล่าวหาต่อบริษัทไม่มีมูลความจริง และไม่สามารถนำคดีเดิมกลับมาฟ้องซ้ำได้
  • บริษัทสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญากับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จซึ่งสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียง

รายงานข่าวจากบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB  เปิดเผยว่า บริษัทได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อและสื่อสังคมออนไลน์ พาดพิงถึงบริษัทเกี่ยวกับสัญญาสัมปทานสื่อโฆษณากับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนและส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของบริษัท

ทั้งนี้ Plan B ระบุว่า ข้อร้องเรียนที่มีการยื่นถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 เป็นข้อพิพาทเก่าที่เกิดขึ้นมานานเกือบ 20 ปี โดยมีข้อเท็จจริงย้อนหลังไปตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2550 และเป็นประเด็นที่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมครบถ้วนแล้ว

รายงานข่าวจาก PLANB กล่าวต่อว่า ผู้ร้องเรียนได้ยื่นฟ้องบริษัทและบุคคลที่เกี่ยวข้อง และบริษัทได้ใช้สิทธิตามกฎหมายดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเช่นกัน รวมแล้วเป็นคดีทั้งสิ้น 21 คดี (เป็นคดีอาญาทั้งหมด) ซึ่งศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว
 

ขณะที่ผลคำพิพากษาดังกล่าว สะท้อนอย่างชัดเจนว่าข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัทไม่มีมูลตามกฎหมาย อีกทั้งไม่สามารถนำคดีเดิมกลับมาฟ้องซ้ำได้ และในบางประเด็นยังขาดอายุความตามกฎหมาย  

นอกจากนี้ในคดีที่บริษัทและผู้เกี่ยวข้องเป็นโจทก์ ศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษผู้ร้องเรียนในบางคดี และในบางคดีผู้ร้องเรียนได้ให้ถ้อยคำต่อศาลว่าเป็นความเข้าใจผิด นอกจากนี้ ขสมก. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐที่ถูกพาดพิง ยังได้ใช้สิทธิตามกฎหมายดำเนินคดีหมิ่นประมาทกับผู้ร้องเรียนด้วย  

“บริษัทมองว่า การกล่าวอ้างในครั้งนี้เป็นการ รื้อฟื้นประเด็นเดิมที่ศาลได้วินิจฉัยยุติไปแล้ว ซึ่งอาจทำให้ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัท รวมถึงผู้ถือหุ้น นักลงทุน คู่ค้า และสาธารณชน เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนได้” รายงานข่าวจาก PLANB กล่าว

Plan B ระบุด้วยว่า ผู้ร้องเรียนเคยมีประวัติถูกศาลพิพากษาลงโทษในคดีหมิ่นประมาทและคดีฉ้อโกงผู้อื่นหลายคดี โดยข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นข้อมูลประกอบในการพิจารณาพฤติการณ์และน้ำหนักความน่าเชื่อถือของข้อกล่าวอ้าง รวมถึงการหยิบยกประเด็นเดิมที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนกลับมากล่าวอ้างอีกครั้ง  

“ยืนยันว่าบริษัทเคารพและเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมทุกขั้นตอน และพร้อมเปิดเผยข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาที่เป็นลายลักษณ์อักษรของศาล ซึ่งได้ชี้ชัดมาแล้วหลายครั้งว่าข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัทนั้นไม่มีมูลตามกฎหมาย” รายงานข่าวจาก PLANB กล่าว

ทั้งนี้บริษัทระบุว่า การดำเนินธุรกิจของ Plan B ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล ความโปร่งใส และการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมตระหนักว่าการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือขัดแย้งกับคำพิพากษาของศาล อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสียและภาพลักษณ์ของตลาดทุนโดยรวม  

นอกจากนี้ Plan B ระบุว่า จากการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริงและคำพิพากษาของศาล ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงและผลประโยชน์ของบริษัท บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินการทางกฎหมาย ทั้งทางแพ่งและอาญา กับผู้ที่เกี่ยวข้อง และอยู่ระหว่างการเตรียมการดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

อย่างไรก็ดีบริษัทขอให้ผู้ถือหุ้น นักลงทุน สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป มั่นใจว่า Plan B ให้ความสำคัญสูงสุดกับข้อเท็จจริง ความโปร่งใส และพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการตรวจสอบข้อมูลอย่างเป็นธรรม บนพื้นฐานของกฎหมายและคำพิพากษาของศาล