KEY
POINTS
ถึงแม้ว่าที่ผ่านมา ‘กรมทางหลวงชนบท’ เดินหน้าก่อสร้างสะพานหลายแห่ง เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ แต่ปัจจุบันพบว่า ‘โครงการสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณถนนสนามบินน้ำ’ กลับถูกคัดค้านจากชาวบ้านในพื้นที่อย่างหนัก แหล่งข่าวจากกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการสะพานข้ามแม่นํ้าเจ้าพระยา บริเวณถนนสนามบินน้ำ งบประมาณรวม 5,000 ล้านบาท
ที่ผ่านมากรมฯได้ศึกษาสำรวจออกแบบรายละเอียดความเหมาะสมของโครงการฯควบคู่กับการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เสร็จแล้ว
ทั้งนี้ในปัจจุบันกรมฯได้ยกเลิกโครงการดังกล่าวแล้ว เนื่องจากประชาชนในพื้นที่มีการคัดค้านและไม่เห็นด้วยในการก่อสร้างโครงการฯ เพราะการก่อสร้างกระทบต่อวิถีชีวิต ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทาง
“เรามีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่มา 2 ครั้งแล้ว ซึ่งมองแล้วไม่น่าไหว เพราะมีการคัดค้านสูงมาก” แหล่งข่าวจากทช.กล่าว
แหล่งข่าวจากทช.กล่าวต่อว่า หากโครงการดังกล่าวไม่เกิดอาจจะส่งผลกระทบต่อการจราจรติดขัดในพื้นที่ได้ เนื่องจากในขณะนี้กรมฯมีสะพานที่เปิดให้บริการ จำนวน 13 แห่งทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ไม่สามารถรองรับปริมาณจราจรในชั่วโมงเร่งด่วนได้
อีกทั้งในปัจจุบันการหาทำเลที่ดินในการก่อสร้างสะพานค่อนข้างยาก โดยเฉพาะพื้นที่ธุรกิจ ซึ่งเต็มพื้นที่หมดแล้ว
ที่ผ่านมามีกลุ่มชาวบ้านสนามบินนํ้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เรียกร้องให้ยกเลิกโครงการฯนั้น ทาง กรมฯได้รับทราบเรื่องแล้ว โดยกรมฯได้จัดประชุมเพื่อชี้แจงกับชาวบ้านมาโดยตลอด ซึ่งไม่ได้ปิดกั้นความคิดเห็นประชาชนที่คัดค้านหรือไม่เห็นด้วยกับโครงการฯ
สำหรับรายละเอียดในหนังสือเรียกร้องดังกล่าว ระบุว่า กรมทางหลวงชนบทมีโครงการจะสร้างสะพานข้ามแม่นํ้าเจ้าพระยาบริเวณถนนสนามบินนํ้า จากฝั่งชุมชนสนามบินนํ้า อำเภอเมือง นนทบุรี
ข้ามแม่นํ้าเจ้าพระยา ไปยังฝั่งตำบลท่าอิฐ อำเภอปากเกร็ด ผ่านตำบลท่าอิฐไปสิ้นสุดที่ถนนราชพฤกษ์ ซึ่งจะทำให้คนในชุมชนสนามบินนํ้าเดือดร้อนไร้ที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมากซึ่งไม่เห็นด้วยในการก่อสร้างสะพานสนามบินนํ้า ด้วยเหตุผลการสร้างสะพานไม่ตอบโจทย์ในการแก้ไขปัญหาการจราจรอย่างแท้จริง
ตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯแต่กลับสร้างปัญหาจราจรติดขัดบริเวณแยกสนามบินนํ้าเพิ่มขึ้นปัจจุบันระบบขนส่งมวลชน ระบบรางคือรถไฟฟ้ามีถึง 2 สาย คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วงที่เปิดดำเนินการแล้วกับสายสีชมพูที่กำลังก่อสร้างและเปิดให้บริการในปัจจุบันแล้ว
ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐท้องถิ่นแก้ปัญหาไม่ตรงจุด สภาพการจราจรภายในเขต อำเภอเมืองนนทบุรีแออัดอยู่แล้วและมีสะพานหลักคือ สะพานพระนั่งเกล้า 2 สะพาน เท่ากับเป็นสะพานสนามบินนํ้าได้
ส่วนแนวเส้นทางพื้นที่ที่ถูกเวนคืนของโครงการฯ มีพื้นที่เวนคืนที่ดิน 146 ไร่ 337 แปลง 250 หลังคาเรือน ตั้งอยู่บนพื้นที่บริเวณกรมพลาธิการทหารบก
ช่วงเชิงสะพานฝั่งถนนสนามบินนํ้าตลอดจนพื้นที่บริเวณถนนระดับดินบริเวณตำบลท่าอิฐเชื่อมต่อถนนราชพฤกษ์ ระยะทาง 7 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งกรมฯไม่ได้มีการเวนคืนที่ดินบริเวณสะพานข้ามถนนสนามบินนํ้า แต่จะดำเนินการขยายช่องจราจรบริเวณเขตทางเดิม
ขณะเดียวกันจากการศึกษาวิเคราะห์ความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจการดำเนินโครงการฯ พบว่ามูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) อยู่ที่ 1,152.23 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ (EIRR) อยู่ที่ 16.60% อัตราผลประโยชน์ต่อต้นทุน (B/C Ratio) อยู่ที่ 1.45 ซึ่งถือว่าโครงการฯ มีความเหมาะสม
อย่างไรก็ดีจากการคาดการณ์ปริมาณการจราจรในอนาคตบริเวณถนนในโครงการ- สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ทั้ง 5 แห่ง พบว่า เมื่อเปิดให้บริการในปีแรก ทำให้ปริมาณการจราจรบริเวณถนนรัตนาธิเบศร์ ลดลงอยู่ที่ 124,363 คันต่อวัน
ถนนนครอินทร์ ลดลงอยู่ที่ 126,725 คันต่อวัน ถนนราชพฤกษ์ ลดลงอยู่ที่ 113,275 คันต่อวัน ถนนกาญจนาภิเษก ลดลงอยู่ที่ 192,213 คันต่อวัน และสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 78,575 คันต่อวัน
เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,153 วันที่ 30 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568