‘รฟท.’ วุ่น ‘รถไฟทางคู่มาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ’ 2.9 หมื่นล้าน ติดหล่มเวนคืน
‘รฟท.’ กางแผนคืบหน้า ‘รถไฟทางคู่มาบกะเบา –ชุมทางถนนจิระ’ 2.9 หมื่นล้านบาท เผยลงนามสัญญาครบ 107 แปลง สะดุด หลังติดหล่มเวนคืนที่ดิน เร่งเจรจาชาวบ้านจบภายใน ก.ย.นี้
KEY
POINTS
- โครงการรถไฟทางคู่สายมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ มูลค่ากว่า 2.9 หมื่นล้านบาท ประสบปัญหาล่าช้าเนื่องจากการเวนคืนที่ดินยังไม่แล้วเสร็จ
- การจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินยังติดขัดใน 107 แปลง โดยมีปัญหาทั้งการติดต่อเจ้าของที่ดินไม่ได้ และชาวบ้านบางส่วนไม่ยินยอมมอบเอกสารสิทธิ์
- คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินค่าเวนคืนที่ดินอีก 197.37 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดย รฟท. ตั้งเป้าเจรจาให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้
- แม้การเวนคืนจะล่าช้า แต่การก่อสร้างในสัญญาที่ 1 และ 3 ยังคงดำเนินต่อไป โดยคาดว่าโครงการจะเปิดให้บริการได้ในปี 2571
ปัจจุบัน ‘การรถไฟแห่งประเทศไทย’ ยังคงผลักดันการก่อสร้าง ‘รถไฟทางคู่’ หลายเส้นทางอย่างต่อเนื่อง ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับปริมาณสินค้าได้มากขึ้น ตลอดจนลดต้นทุนการขนส่งสินค้าในอนาคต
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 132 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 29,968 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตรและสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์ แต่ยังติดปัญหาในการเวนคืนที่ดิน โดยการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินในส่วนที่เหลือมีจำนวนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ทั้งสิ้น 107 แปลง
ทั้งนี้การจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินของโครงการฯ แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ดังนี้ 1.รฟท.ได้มีการลงนามสัญญาแล้ว 51 แปลง ปัจจุบัน ยังไม่ได้ยื่นรังวัด 1 แปลง เนื่องจากติดต่อเจ้าของไม่ได้ และที่เหลือทำการรังวัดแล้วไม่โดนเวนคืน 4 แปลง
และอีก 46 แปลง เช็คออกจากฝ่ายบัญชีแล้ว ซึ่งดำเนินการจ่ายค่าทดแทนไปแล้ว 19 แปลง คงเหลือ 27 แปลง คาดว่าจะดำเนินการเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวต่อว่า ส่วนที่ยังยื่นรังวัดไม่ได้ เบื้องต้นทางรฟท.จะนำเงินฝากกับสถาบันทางการเงินและประสานกับผู้ที่ถูกเวนคืนที่ดินและสำนักงานที่ดินในการจ่ายค่าทดแทนและตัดแบ่งแปลงเพื่อจัดกรรมสิทธิ์ต่อไป
2.รฟท.ได้มีการลงนามสัญญาแล้ว 56 แปลง โดยรฟท. ขอเจรจาเพื่อขอเอกสารกับชาวบ้าน และยื่นรังวัดได้แล้ว 30 แปลง ที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ฯ ของชาวบ้านโดนเต็มแปลง 15 แปลง (ไม่ต้องยื่นรังวัด) ทั้งนี้มีเอกสารสิทธิ์ รว.9 เดิม 2 แปลง ส่วนอีก 9 แปลง ชาวบ้านไม่ยินยอมให้เอกสาร
ทั้งนี้แนวทางการเวนคืนที่ดิน เบื้องต้นรฟท.จะออกหนังสือเชิญชาวบ้านเจรจาให้ยินยอมทำสัญญาทั้งหมดภายในเดือนกันยายนนี้
จากนั้นจะเสนอต่อคณะกรรมการปรองดองพิจารณาว่ามีรายใดบ้างที่ยินยอมทำสัญญากับรฟท.เพื่อเสนอร่างประกาศเฉพาะผู้ที่ยินยอมเสนอให้ผู้ว่า รฟท.ลงนามในประกาศภายในเดือนตุลาคม 2568 คาดว่าเอกสารสิทธิ์ รว.9 เริ่มทยอยออกมาภายในเดือนพฤศจิกายน 2568
โดยรฟท.จะเชิญผู้ถูกเวนคืนที่ดินทำสัญญาต่อไป ส่วนรายที่ไม่ยอมให้เอกสารสิทธิ์จะมอบให้คณะกรรมการปรองดองพิจารณาเป็นรายกรณีต่อไป
อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติปรับกรอบวงเงินรวมของโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา - ชุมทางถนนจิระ โดยเพิ่มกรอบวงเงินเฉพาะในส่วนของค่าเวนคืนที่ดินของสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา - คลองขนานจิตร
และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์รถไฟอีกจำนวน 197.37 ล้านบาท ส่งผลให้กรอบวงเงินค่าเวนคืนของโครงการฯ เพิ่มขึ้นจากเดิม 56 ล้านบาท เป็น 253.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 4.5 เท่า
ด้านการก่อสร้างงานโยธาของโครงการฯ ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างในสัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร ระยะทาง 58 กิโลเมตร (กม.) และสัญญาที่ 3 งานอุโมงค์
ส่วนสัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 69 กม. อยู่ระหว่างการแก้ไขรูปแบบการก่อสร้างเป็นทางยกระดับ ช่วงสถานีโคกกรวด-ชุมทางถนนจิระ ระยะทาง 16 กม. ตามข้อร้องเรียนของประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา
ที่ผ่านมาสัญญาที่ 2 นั้นพบว่าได้ข้อสรุปช่วงผ่านกลางเมืองไม่ทุบสะพานสีมาธานีเพื่อให้สอดคล้องกับโครงการรถไฟความเร็วสูงระยะที่ 1 (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) งานสัญญาที่ 3-5 ช่วงโคกกรวด-นครราชสีมา เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่องบประมาณสูงสุด
ผ่านพื้นที่ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน และมาสิ้นสุดโครงการที่สถานีชุมทางถนนจิระ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,134 วันที่ 25 - 27 กันยายน พ.ศ. 2568