"คมนาคม" ทะลวงแผน “บ้านเพื่อคนไทย” เลื่อนจับสลาก พ.ย.นี้

“โครงการบ้านเพื่อคนไทย” 1 ในบิ๊กโปรเจ็กต์ของกระทรวงคมนาคมภายใต้รัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ที่เปิดโอกาสให้คนไทยที่ไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง และไม่มีประวัติค้างชำระเครดิตบูโร ได้จองสิทธิ์ที่พักผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

สำหรับโครงการฯนี้ อยู่บนทำเลที่ตั้งของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทั้ง 4 แห่ง รวม 12,000 ยูนิต ประกอบด้วย ที่ดินบางซื่อ กม. 11 ใกล้สำนักงานใหญ่ ปตท. บนเนื้อที่ 15 ไร่ ซอยวิภาวดี 11 ที่ดินธนบุรี บริเวณตลาดศาลาน้ำร้อน ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีทองกับสีส้ม (กำลังก่อสร้าง) 800 เมตร บนเนื้อที่รวม 23 ไร่ ที่ดินเชียงราก จังหวัดปทุมธานี ใกล้สถานีรถไฟเชียงราก และ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต บนเนื้อที่ 18 ไร่ และที่ดินเปล่าตรงข้ามสถานีรถไฟเชียงใหม่ ถนนเจริญเมือง รวม 15 ไร่

ทั้งนี้โครงการบ้านเพื่อคนไทย จะเปิดให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและคนเริ่มต้นทำงาน (First Jobber) ได้สิทธิซื้อเป็นบ้านหลังแรกมีงวดผ่อน 4,000 บาทต่อเดือน ระยะผ่อน 30-40 ปี แต่ได้สิทธิอยู่อาศัย 99 ปี ผ่านการคัดเลือกจากการจับสลาก โดยมีธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นผู้ปล่อยกู้ซื้อบ้านเพื่อคนไทย ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ 2.5%
 

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้ฤกษ์จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจับสลากเพื่อหาผู้ได้รับสิทธิโครงการบ้านเพื่อคนไทยระหว่างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกับบริษัทเอสอาร์ที แอสเสท จำกัด  ขณะนี้ได้ผ่านการพิจารณาเบื้องต้นจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แล้ว จำนวน 130,000 คน จากทั้งหมดที่มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 260,000 คน โดยจะนำร่องจับสลากรายชื่อผู้โชคดี จำนวน 5,000 คน

สำหรับขั้นตอนหลังจากการลงนามสัญญาดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นบริษัทเอสอาร์ทีฯ จะหารือร่วมกับสำนักสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อดำเนินการจับสลากหาผู้โชคดี โดยระหว่างนี้จะดำเนินการจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) คาดว่าจะได้ผู้รับจ้างภายในปลายเดือนมิถุนายนนี้ จากนั้นจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนตุลาคม 2568 และดำเนินการเปิดประมูลหาผู้รับจ้างก่อสร้างโครงการบ้านเพื่อคนไทยต่อไป  

ส่วนรูปแบบการจับสลากผู้โชคดีนั้น ที่ผ่านมาสำนักสลากฯเคยดำเนินการจับสลากในรูปแบบการสุ่มแบบแรนด้อม โดยประกาศจับรายชื่อผู้โชคดีผ่านการถ่ายทอดสดในช่องทางยูทูป เพื่อสามารถตรวจสอบดูรายชื่อย้อนหลังได้ ซึ่งสำนักสลากฯจะจับมือกับมหาวิทยาลัยเพื่อตรวจสอบข้อมูลผ่านโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะมีการล็อคโค้ดไว้แล้วเพื่อป้องกันเปลี่ยนแปลงข้อมูลในระบบ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการจับสลากได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2568 ซึ่งเลื่อนจากแผนเดิมที่กำหนดการจับสลากในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตามแผนจะเริ่มส่งมอบพื้นที่โครงการบ้านเพื่อคนไทย ระยะที่ 1 พร้อมเข้าอยู่ได้ภายในปี 2569 
 

อย่างไรก็ดีรูปแบบการก่อสร้างโครงการฯ ได้ข้อสรุป ดังนี้ พื้นที่บางซื่อ กม.11 คอนโดมิเนียม 26 ชั้น พื้นที่ธนบุรี คอนโดมิเนียม 8 ชั้น พื้นที่เชียงราก จังหวัดปทุมธานี คอนโดมิเนียม 8 ชั้น และพื้นที่เชียงใหม่ คอนโดมิเนียม 8 ชั้น ขณะที่บ้านเดี่ยวมีความต้องการลดลงเหลือเพียง 24 หลัง จากเดิม 35 หลัง เพื่อนำไปก่อสร้างเป็นคอนโดมิเนียมแทน 

ไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นที่น่าจับตาอีกว่าเมื่อโครงการบ้านเพื่อคนไทยเริ่มเดินหน้าแล้ว อีกทั้งความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ซึ่งโครงการฯมีการก่อสร้างจำนวนมาก ส่งผลโดยตรงต่อภาคอุตสาหกรรมก่อสร้าง ทำให้เกิดการจ้างงานแก่ผู้รับเหมา ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แรงงานก่อสร้าง รวมทั้งการเพิ่มมูลค่าและทรัพย์สินของภาครัฐ ตลอดจนลดภาระค่าใช้จ่ายในการดู    แลรักษา

นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมยังมีแผนผลักดันโครงการบ้านเพื่อคนไทย ระยะที่ 2 จำนวน 7,000 ยูนิต บนพื้นที่อีก 4 แห่งประกอบด้วย ที่ดินบางซื่อกม.11  ที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ที่ดินจังหวัดขอนแก่น ที่ดินจังหวัดชลบุรี และที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเป็นรูปธรรมได้ภายในปีนี้ ซึ่งในทุกๆเดือนจะมีการประกาศเปิดให้ลงทะเบียนแสดงเจตจำนงผ่านระบบออนไลน์ของเว็บไซต์บ้านเพื่อคนไทยและผ่านระบบออฟไลน์ที่ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ

เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,096 วันที่ 15 - 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568