กลุ่มบริษัท เอส เอ็ม เอส หนึ่งในกลุ่มบริษัทพูลผลถือเป็นผู้ริเริ่มนำแป้งมันสำปะหลังสร้างมูลค่าเพิ่มนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งอาหาร กระดาษ สิ่งทอ กาว อาคารและสิ่งก่อสร้าง รวมถึงพลาสติกชีวภาพ นอกเหนือจากความโดดเด่นในเรื่องของเทคโนโลยี และความพร้อมของระบบงานวิจัยและพัฒนาแล้ว SMS Group ยังให้ความสำคัญต่อการดำเนินการเพื่อสร้าง “ความยั่งยืน” ทั้งภายในองค์กรและส่วนรวม โดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนแวดล้อม ผ่านโครงการต่างๆ
หนึ่งในนั้นคือ การทำ MOU ความร่วมมือโครงการ “โรงเรียนร่วมพัฒนา” (MOU-Partnership School Project) โรงเรียนมันสำปะหลัง จ.ชัยภูมิ แห่งแรกของไทย ซึ่งจัดตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 2 ปีที่แล้ว โดยบริษัทฯ ได้เลือก “โรงเรียนชุมชนบ้านหนองแวง” (คุรุราษฎร์อุปถัมภ์) ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านหนองแวงศรีพัฒนา ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ
ใกล้กับที่ตั้งโรงงานของบริษัทเป็นโรงเรียนนำร่อง ล่าสุดมูลนิธิทองพูล หวั่งหลี และโรงเรียนชุมชนบ้านหนองแวงฯ ได้จัดพิธีลงนามส่งมอบศูนย์เรียนรู้มันสำปะหลัง แปลงสาธิตเพาะปลูกมันสำปะหลัง และแปลงพืชสมุนไพร พร้อมทำการเปิดศูนย์เรียนรู้ฯ อย่างเป็นทางการ ณ อาคารอเนกประสงค์
“อภิชาต หวั่งหลี” กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิทองพูล หวั่งหลี เล่าให้ฟังว่า โครงการ “โรงเรียนร่วมพัฒนา” จะช่วยสร้างอาชีพ และรายได้ให้กับคนในชุมชนได้อย่างยั่งยืน โดยองค์ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับมันสำปะหลัง จะถูกพัฒนาและเริ่มต้นจากที่นี่ ซึ่งมิได้จำกัดเฉพาะการเรียนรู้เรื่องการปลูกผลิตมันสำปะหลังเท่านั้น แต่รวมถึงการแปรรูป การนำผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังพัฒนาไปสู่เมนูต่างๆ โดยดำเนินงานร่วมกับโรงเรียน เชื่อมโยงกระบวนการพัฒนาเด็กและเยาวชนผ่านนักเรียนหรือลูกหลานของคนในชุมชน ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาชุมชนและสังคมที่ยั่งยืน
ด้านดร.วีรวัฒน์ เลิศวนวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท SMS กล่าวว่า โครงการนี้ มีความสอดคล้องกับกลยุทธ์ด้าน CSR ของบริษัทฯ ที่มุ่งสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนรอบๆ โรงงาน เพื่อก้าวไปสู่วิสัยทัศน์ “SMS Group จะเป็นผู้นำ ทางด้านนวัตกรรม การดัดแปรแป้งมันสำปะหลังและเป็นพันธมิตรที่ คู่ค้าไว้วางใจ” รวมถึงขับเคลื่อนสู่การเป็นองค์กรต้นแบบที่ดีของสังคมในการดำเนินกิจการ และมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคม ชุมชน โดยเฉพาะด้านการศึกษา
“เราเล็งเห็นความสำคัญของการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน และพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ด้วยความเชื่อว่า การก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนจะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขับเคลื่อนองค์กร และเสริมศักยภาพให้กับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทยได้อย่างมั่นคง”
นายสมศักดิ์ แก้วเพชร ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนบ้านหนองแวง (คุรุราษฎร์อุปถัมภ์) กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างบริษัท สยาม ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด และมูลนิธิทองพูล หวั่งหลี ซึ่งเป็นภาคเอกชนที่ให้การสนับสนุน โดยนำ “มันสำปะหลัง” ที่เป็นองค์ประกอบอาหารทั้งคาวและหวาน มาสร้างทักษะอาชีพในมิติต่างๆ ให้กับเด็ก และคนในชุมชน
โดยมีภาครัฐ หน่วยงานท้องถิ่นต่างๆ ในจังหวัดชัยภูมิ ร่วมผลักดันอย่างเต็มที่ เพื่อสร้างทักษะ ความรู้ ความเข้าใจในด้านวิชาชีพที่เกี่ยวกับมันสำปะหลัง ให้กับเด็กๆ สามารถนำต้นทุนมาพัฒนาสร้างงาน สร้างอาชีพให้ตนเองได้ในอนาคต ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับคนในชุมชนได้อย่างยั่งยืน ในระยาว
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,820 วันที่ 22 - 24 กันยายน พ.ศ. 2565