"ตรีรัตน์"จวกร่างพ.ร.บ.โซลาร์เซลล์ เปิดช่องคอร์รัปชัน รวมอำนาจ

27 พ.ค. 2568 | 04:37 น.
อัปเดตล่าสุด :27 พ.ค. 2568 | 04:58 น.

“ตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส” ฉะร่างพ.ร.บ.โซลาร์เซลล์ ของกระทรวงพลังงาน รวมศูนย์อำนาจไว้ที่ รมต. เอื้อนักการเมือง-พวกพ้อง เปิดช่องทุจริต เชิญร่วมแสดงความเห็นก่อน 30 พ.ค.

วันนี้ (27 พ.ค. 68) นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส อดีตรองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO บริษัทเอกชนด้านโซลาร์เซลล์ชื่อดัง ได้ออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พ.ศ.... ของกระทรวงพลังงานอย่างชัดเจน 

โดยโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กแฟนเพจ "ตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส - Treerat Sirichantaropas" และบัญชี X ส่วนตัว ระบุว่า ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวไม่ได้สะท้อนเจตนารมณ์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน แต่กลับเป็นการขยายอำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อย่างไม่สมเหตุสมผล จนเสี่ยงกลายเป็นเครื่องมือเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มการเมืองและเครือข่ายธุรกิจใกล้ชิดรัฐบาล

นายตรีรัตน์ กล่าวว่า ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจติดตั้งโซลาร์เซลล์ เขาเห็นปัญหาในระบบราชการที่ซับซ้อนและล่าช้า จนเปิดช่องให้เกิดการเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่รัฐ จึงหวังว่าร่าง พ.ร.บ. ฉบับใหม่นี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจและประชาชน แต่เมื่อได้ศึกษาเนื้อหาของร่างกฎหมาย กลับพบว่าเนื้อหา “ตรงกันข้าม” กับที่ประชาชนคาดหวัง

เนื้อหาในร่างกฎหมายที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ารวมศูนย์อำนาจเกินควร ได้แก่

  • รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมีอำนาจออกระเบียบ กำหนดสถานที่ติดตั้งนอกเหนือจากบ้านหรือสถานประกอบการ
  • กำหนดอุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถใช้งานได้
  • แต่งตั้งหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ให้ทำการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าแทนการไฟฟ้าภูมิภาค ซึ่งอาจเพิ่มขั้นตอนและความเสี่ยงต่อการทุจริต
  • มีอำนาจประกาศรับซื้อและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับบุคคลหรือองค์กร โดยไม่ผ่านกระบวนการถ่วงดุล
  • สามารถกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าที่จะรับซื้อจากประชาชน
  • ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ที่รัฐมนตรีแต่งตั้ง เข้าตรวจสอบหรือรื้อถอนการติดตั้งในบ้านพักอาศัยได้

นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังระบุให้ผู้ที่ต้องการติดตั้งโซลาร์รูฟ ต้องแจ้งความประสงค์ล่วงหน้ากับอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เป็นเวลา 30 วัน และปฏิบัติตามระเบียบหรือหลักเกณฑ์ที่ยังไม่ได้ประกาศใช้อย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นอาจถูกเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอน พร้อมเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากเจ้าของบ้านหรือสถานประกอบการ

นายตรีรัตน์ ชี้ว่า นี่ไม่ใช่การส่งเสริมพลังงานสะอาดอย่างแท้จริง แต่เป็นการเพิ่มภาระให้ประชาชน ทำให้สิ่งที่ควรเป็นเรื่องง่าย กลายเป็นเรื่องซับซ้อน และมีความเสี่ยงต่อการถูกกลั่นแกล้งหรือเรียกรับผลประโยชน์จากอำนาจรัฐ พร้อมตั้งคำถามถึงเจตนารมณ์ของผู้ร่างกฎหมายว่ากำลัง “รับใบสั่งจากใคร” อยู่หรือไม่

ทั้งนี้ขอเชิญชวนประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ให้ร่วมกันส่งเสียงคัดค้าน โดยสามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา www.law.go.th/listeningDetail?survey_id=NTMyN0RHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ= ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2568

“นี่ไม่ใช่ร่างกฎหมายเพื่อประชาชน แต่คือเครื่องมือของนักการเมืองที่หวังผลประโยชน์บนหลังประชาชนและพลังงานสะอาด” นายตรีรัตน์ ระบุ