พลังงานจ่อลงทุน LNG สหรัฐเพิ่ม ลดแรงกดดันสงครามการค้า

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” เกี่ยวกับแผนรับมือนโยบายทางด้านภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า เบื้องต้นจะต้องไปดูเรื่องของความร่วมมือในการซื้อขายก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี (LNG) ซึ่งก่อนหน้านี้สหรัฐฯได้เคยชักชวนประเทศไทยให้เข้าไปลงทุนนประเทศ ในส่วนของสถานี (Terminal) หรือการทำสัญญาซื้อ LNG

โดยไทยเองก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ แต่ก็ต้องขอพิจารณาดูเงื่อนไขอย่างรอบครอบก่อนที่จะตัดสินใจ ซึ่งไทยเองจะต้องมีการนำเข้า LNG เพิ่มอยู่แล้วตามแผน 

“เวลานี้ก็อยู่ในช่วงพิจารณาเงื่อนไข หากมีเงื่อนไข หรือได้ราคาที่ดีที่เหมาะสม พลังงานเองก็พร้อมที่จะห้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อช่วยลดแรงกดดัน และการเกินดุลการค้าของสหรัฐฯได้”

อย่างไรก็ดี ต้องเรียนว่าไทยเองก็มีการทำสัญญาซื้อขาย LNG กับสหรัฐฯอยู่แล้ว โดยในปี 69 ไทยก็มีการซื้อ LNG จากสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้ไทยมีการซื้อสินค้าจากสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ เข้าใจว่าบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ก็ได้มีการสั่งซื้อก๊าซอีเทน และ LNG จากสหรัฐฯเข้ามายังไทย

“ต้องบอกว่าไทยมีการสั่งซื้อสินค้าจากสหรัฐฯอย่างต่อเนื่อง ทั้งปีหน้า และหรือปีถัดไป เพียงแต่เวลานี้อาจจะไม่ได้มีการนำเข้ามา หรือซื้อสินค้า เพราะยังไม่ได้มีการชำระเงิน แต่เมื่อใดก็ตามที่มีสินค้าเข้ามา มีการจ่ายเงิน ก็จะช่วยให้ดุลการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯดีขึ้น แต่เวลานี้ที่ทรัมป์ดูก็เพียงแค่สถานะปัจจุบัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าได้ดูไปถึงส่วนที่ทำสัญญาซื้อไว้แล้วดังกล่าวนี้ด้วยหรือไม่ แต่เชื่อว่าในระยะต่อไปน่าจะดีขึ้น”

ก่อนหน้านี้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีการหารือร่วมกับ ปตท. โดยระบุว่า ได้รับทราบจากปตท.ว่า ในปีหน้าปตท.มีแผนจะซื้อก๊าซธรรมชาติ LNG จากสหรัฐจำนวน 1 ล้านตัน และใน 5 ปีข้างหน้า สัญญาการจัดซื้อก๊าซธรรมชาติ LNG จากประเทศต่างๆ จะทยอยหมดลง

ทั้งนี้ จึงวางแผนที่จะจัดซื้อจากสหรัฐเพิ่มอีก 1 ล้านตันต่อปี มูลค่า 500-600 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีในราคาที่แข่งขันได้ และอาจจะจัดซื้อเพิ่มเพื่อนำมาส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านด้วย  ซึ่งปตท.จะต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับพื้นที่ในการจัดเก็บด้วย 

นอกจากนี้ ปตท.ยังมีแผนการจัดซื้อก๊าซอีเทนจากสหรัฐในปีหน้าอีกประมาณ 4 แสนตัน รัฐบาลก็จะไปยืนยันว่า จะจัดซื้อก๊าซดังกล่าวจากสหรัฐในระยะยาวต่อไป

“สิ่งที่จะนำไปเจรจานั้น เป็นเรื่องที่ไทยต้องลงทุนหรือนำเข้าอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาลงทุนตอนนี้”