น้ำมันเบนซิน-ดีเซลยอดใช้ 7 เดือนพุ่งรับเศรษฐกิจฟื้นตัว

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2565 ว่า อยู่ที่ 151.04 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 13.5% โดยการใช้กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้น 16.2% ,น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้น 69.5% ,น้ำมันเตาเพิ่มขึ้น 18.9% ,LPG เพิ่มขึ้น 9.4% และการใช้ NGV เพิ่มขึ้น 5.6%

การใช้กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น 2.4% ขณะที่น้ำมันก๊าดลดลง 3.2% โดยเมื่อพิจารณาภาพรวมความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการภาครัฐที่ช่วยผลักดันเศรษฐกิจ อาทิ การผ่อนคลายการเดินทางเข้า-ออกประเทศ การเปิดสถานบันเทิง การปรับลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 29.80 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน
ของปีก่อน 2.4% 

สำหรับการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์ อี20 และเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 7.00 ล้านลิตรต่อวัน ,5.63 ล้านลิตรต่อวัน และ 0.54 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ อี85 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15.66 ล้านลิตรต่อวัน และ 0.97 ล้านลิตรต่อวัน 

โดยผู้เดินทางที่ถือสัญชาติไทยและชาวต่างชาติไม่ต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass สามารถเดินทางเข้าได้ตามปกติไม่ต้องกักตัว แต่ต้องแสดงเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนครบ หรือผลตรวจ RT-PCR / Professional ATK ที่ออกภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง โดยไม่ต้องมีประกันสุขภาพ

การใช้ LPG เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 18.17 ล้านกก.ต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9.4% เนื่องจากการใช้ในทุกภาคเพิ่มขึ้น โดยภาคขนส่งเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.13 ล้านกก.ต่อวัน เพิ่มขึ้น 3.6% ภาคปิโตรเคมี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 8.27 ล้านกก.ต่อวัน เพิ่มขึ้น 11.4% ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.03 ล้านกก.ต่อวัน เพิ่มขึ้น 10.2% และภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.74 ล้านกก.ต่อวัน เพิ่มขึ้น 2.2% 

การใช้ NGV เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.39 ล้านกก.ต่อวัน เพิ่มขึ้น 5.6% อย่างไรก็ตาม เนื่องจากราคาก๊าซ NGV ที่ปรับตัวสูงขึ้น ภาครัฐจึงได้ขอความร่วมมือ ปตท. ขยายระยะเวลาการคงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม และราคาขายปลีก NGV สำหรับรถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม จนถึงวันที่ 15 กันยายน 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนทุกภาคส่วน

การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,031,582 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.5% เนื่องจากความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น โดยการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 963,155 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้น 11.7% โดยมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 108,453 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้น 103.5%
 

สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 68,427 บาร์เรลจ่อวัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 5,843 ล้านบาทต่อเดือน

การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2565 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา

น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกลดลงมาอยู่ที่ 172,104 บาร์เรล/วัน ลดลง 6.3% คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 22,370 ล้านบาทต่อเดือน เพิ่มขึ้น 84.6% เนื่องจากความต้องการใช้ที่ชะลอตัวตามการแพร่ระบาด COVID-19 ในบางประเทศ