'สีหศักดิ์' วอนกัมพูชาหยุดยั่วยุ ย้ำประชุม JBC ปักปันเขตแดนต้องรอรัฐบาลใหม่

30 ธ.ค. 2568 | 05:43 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ธ.ค. 2568 | 05:50 น.

“สีหศักดิ์” ชี้ข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชายังเปราะบาง จี้หยุดส่งโดรนและวาทกรรมยั่วยุทำลายบรรยากาศความเชื่อใจ ย้ำชัดการประชุม JBC เพื่อปักปันเขตแดนยังไร้กำหนด เหตุต้องรออานัติจากรัฐบาลใหม่และมีขั้นตอนกฎหมายผูกพัน เร่งเก็บกู้ระเบิดชายแดนคืนความสงบให้ประชาชน

KEY

POINTS

  • นายสีหศักดิ์เรียกร้องให้กัมพูชาหยุดการกระทำที่ยั่วยุ เพื่อรักษาข้อตกลงหยุดยิงที่ยังเปราะบางและสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน
  • การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) เพื่อปักปันเขตแดนยังไม่สามารถดำเนินการได้ โดยต้องรอการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของไทยก่อน
  • การชะลอการประชุม JBC ไม่ใช่การประวิงเวลา แต่เป็นไปตามข้อจำกัดทางกฎหมายของรัฐบาลรักษาการ ซึ่งข้อตกลงใดๆ จะมีผลผูกพันรัฐบาลชุดต่อไป

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมร่วมกับกัมพูชา ณ เมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีจีนเป็นเจ้าภาพ โดยย้ำว่าเป้าหมายสำคัญของการหารือครั้งนี้คือการผลักดันให้ข้อตกลงหยุดยิงมีความยั่งยืน เพื่อนำไปสู่การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ก่อนจะพิจารณาทิศทางความสัมพันธ์ในก้าวต่อไป

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าสถานการณ์ปัจจุบันยังมีความเปราะบางอย่างมาก จึงจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่เป็นการยั่วยุ หรือสร้างความเข้าใจผิดที่อาจบั่นทอนความเชื่อมั่น เช่น กรณีการปล่อยโดรนซึ่งต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด

'สีหศักดิ์' วอนกัมพูชาหยุดยั่วยุ ย้ำประชุม JBC ปักปันเขตแดนต้องรอรัฐบาลใหม่

นอกจากนี้ นายสีหศักดิ์ยังระบุถึงถ้อยแถลงในระดับผู้นำที่ต้องมีความระมัดระวัง โดยยกตัวอย่างกรณีที่นายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ออกมาระบุว่าการหยุดยิงไม่ได้หมายความว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายแพ้ ซึ่งประเด็นนี้อาจทำให้เกิดการโต้แย้งกลับได้ว่าใครเป็นฝ่ายร้องขอการหยุดยิงก่อน แต่ส่วนตัวมองว่าควรก้าวข้ามเรื่องดังกล่าวเพื่อมุ่งสร้างความยั่งยืนให้กับการหยุดยิงจะเกิดประโยชน์สูงสุด

สำหรับกรณีที่มีโดรนรุกล้ำเข้ามายังฝั่งไทย รวมถึงเหตุการณ์ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด จะส่งผลกระทบต่อข้อตกลงหรือไม่นั้น นายสีหศักดิ์ชี้ว่าต้องพิสูจน์ทราบว่าเป็นทุ่นระเบิดเก่าหรือใหม่ โดยหนึ่งในหัวข้อสำคัญที่หารือกันในกรอบ GBC คือการจัดตั้งระบบฮอตไลน์ที่สามารถตรวจสอบและสื่อสารกันได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ ป้องกันไม่ให้ปัญหาบานปลายจากความเข้าใจผิด

ในส่วนของความพยายามจากฝ่ายกัมพูชาที่ต้องการเร่งรัดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ที่เกี่ยวกับการปักปันเขตแดนนั้น นายสีหศักดิ์ชี้แจงว่าต้องรอให้ผลการประชุม GBC ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเสียก่อน อีกทั้งปัจจุบันอยู่ในช่วงรัฐบาลรักษาการ การจะดำเนินงานใดๆ ต้องได้รับอนุมัติอานัติจาก ครม. เนื่องจากข้อตกลงจะมีผลผูกพันไปถึงรัฐบาลใหม่ จึงต้องพิจารณาข้อกฎหมายอย่างรอบคอบว่าช่วงเวลาใดจึงจะเหมาะสม ยืนยันว่าไม่ใช่การประวิงเวลา แต่มีขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องปฏิบัติตาม

 

ส่วนประเด็นการปล่อยตัวทหารกัมพูชานั้น จะดำเนินการตามที่ได้หารือไว้ คืออาจมีการปล่อยตัวหากภายในช่วง 72 ชั่วโมงสามารถรักษาการหยุดยิงได้จริง โดยย้ำว่าทุกฝ่ายต้องรักษาคำพูดเพื่อประคองความสัมพันธ์ที่ยังเปราะบาง ทั้งในระดับการทูตและระดับปฏิบัติการทางทหารที่ต้องสื่อสารกันอย่างใกล้ชิด

สำหรับฉากทัศน์หลังจากนี้ หากพ้นช่วง 72 ชั่วโมงโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างความเชื่อใจ เช่น การยุติการยั่วยุตามแนวชายแดน และภารกิจสำคัญคือการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เนื่องจากพื้นที่ต้องมีความปลอดภัยสูงสุดก่อนที่จะมีการสำรวจหลักเขตเพื่อประชุม JBC ในอนาคต

ต่อประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน แสดงท่าทีไม่ยอมรับในการที่ไทยสามารถครองดินแดนและปักธงชาติได้ นายสีหศักดิ์มองว่าบริบทตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว การจะเริ่มประชุม JBC หรือไม่ ต้องพิจารณาทั้งสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป รวมถึงท่าทีของรัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไร จะมีการทบทวน 2543 (MOU 2000) หรือไม่

สุดท้าย นายสีหศักดิ์ได้ฝากถึงประชาชนตามแนวชายแดนจังหวัดสระแก้วที่ยังมีความกังวล โดยยืนยันว่าการหยุดยิงทำเพื่อความปลอดภัยและมั่นคงของพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาเองก็มีความสูญเสียพอสมควรและประชาชนของเขาก็อยากจะกลับเข้าพื้นที่เช่นกัน จึงถือเป็นผลประโยชน์ร่วมกันที่จะทำให้เกิดการหยุดยิงถาวร ส่วนประเด็นปัญหาอื่นก็ควรสามารถพูดคุยกันได้ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน