KEY
POINTS
วันนี้ ( 22 ธันวาคม 2568) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้มีการจัดงาน "มหากรรม รวมพลังปราบนอมินี บัญชีม้า" โดยภายในงานได้มีการจัดเสวนา 'ถอดบทเรียนนอมินีในประเทศไทย ' ณ ณ ห้องรอยล จูบิลี บอลรุม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจตั้งแต่ต้นสายจนถึงปลายทางตลอดช่วงอายุของธุรกิจปัจจุบันประเทศไทยมีนิติบุคคลที่เป็นห้างหุ้นส่วนประมาณ 200,000 ราย และบริษัทอีก 780,000 ราย รวมทั้งหมด 980,000 ราย โดยกฎหมายกำหนดให้ทุกกิจการต้องมีผู้ทำบัญชี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 80,000 กว่าคนทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ปัจจุบันเจ้าของธุรกิจกว่า 85-90% ไม่ได้มาจดทะเบียนด้วยตนเอง แต่จะจ้างนักบัญชี ผู้รับจ้างอิสระ หรือทนายความให้ดำเนินการแทน ซึ่งกรมฯ มุ่งเน้นเรื่องการป้องกันและปราบปราม ซึ่งต้องอาศัยการรวมพลังจากทุกภาคส่วน
โดยมีกฎหมายสำคัญคือ พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจคนต่างด้าวซึ่งมีบัญชีแนบท้าย 3 ประเภท
ที่ผ่านมา พบว่าการเลี่ยงกฎหมาย (นอมินี) จะมีการเปิดบริษัทโดยให้คนไทยถือหุ้น 51% เพื่อให้บริษัทมีสถานะเป็นไทย และไม่ต้องขออนุญาตประกอบธุรกิจ โดยมีคนไทยเข้าไปสนับสนุนในการจดทะเบียน เป็นผู้ถือหุ้น หรือเป็นกรรมการร่วมโดยไม่ได้ลงทุนจริง
นอกจากนี้ยังมีปัญหาบัญชีม้าที่มาพร้อมกับกลุ่มมิจฉาชีพ (สแกมเมอร์) ที่หลอกให้ลงทุนผ่านการเปิดบริษัทชื่อน่าเชื่อถือ เพื่อให้เหยื่อกล้าโอนเงินมากกว่าการโอนเข้าบัญชีบุคคลธรรมดา
นายพูนพงษ์ ได้ยกตัวอย่างเคสที่เกิดขึ้นจริงเพื่อเตือนภัยนักบัญชี โดยมิจฉาชีพติดต่อจ้างผู้ทำบัญชีในจังหวัดพัทลุงผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อจดทะเบียนเปลี่ยนกรรมการบริษัท ซึ่งผู้ทำบัญชีรับงานโดยมีค่าจ้างเพียง 2,000 - 2,500 บาท และรับรองว่าเห็นกรรมการ (ชาวต่างชาติ) ลงลายมือชื่อต่อหน้าจริง ทั้งที่ไม่เห็นตัวจริง และมิจฉาชีพเข้าไปเป็นกรรมการแทน และถอนเงินออกจากบัญชีบริษัทไปถึง 18 ล้านบาท ส่งผลให้ผู้ทำบัญชีรายนั้นต้องถูกดำเนินคดีอาญา ถูกตรวจสอบจรรยาบรรณวิชาชีพ และไม่สามารถลงชื่อรับรองลายมือชื่อได้อีกต่อไป
ทั้งนี้กรมฯ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ ดังนี้
นอกจากนี้ กรมฯ ยืนยันว่าต้องการนักลงทุนต่างชาติที่สุจริต แต่ไม่ยอมรับทุนเทา และจะไม่ยอมให้นักบัญชีเป็นผู้สนับสนุนมิจฉาชีพในการฟอกเงิน จึงมีการปรับปรุงระบบดังนี้
ความรวดเร็ว: ลดระยะเวลาพิจารณาการขออนุญาตประกอบธุรกิจคนต่างด้าวจาก 2-3 เดือนเหลือเพียง 1 เดือน
ระบบออนไลน์: พัฒนาระบบ e-Account (เริ่มทดสอบ 15 มิ.ย. และพร้อมเต็มรูปแบบ 1 ก.ค.) และการบริการผ่าน e-Service เพื่อความสะดวก
การยกระดับวิชาชีพ: กรมฯ มองว่าการเพิ่มกติกาต่างๆ ไม่ใช่ภาระ แต่เป็นการยกระดับวิชาชีพทางด้านบัญชีให้มีความสำคัญและมีเกียรติเทียบเท่ากับสมาชิกเนติบัณฑิตยสภา
ทั้งนี้ สุดท้ายฝากถึงนักบัญชีรุ่นใหม่ให้คำนึงถึงจรรยาบรรณและความถูกต้องมากกว่าเพียงแค่รายได้ เพราะความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวอาจกลายเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดได้ทันที
"สถานะของนักบัญชีในบริบทนี้เปรียบเสมือน ผู้ถือกุญแจประตูเมือง หากผู้ถือกุญแจปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้าเมืองเพียงเพราะได้ค่าตอบแทนเล็กน้อยโดยไม่ตรวจสอบตัวตน วันหนึ่งคนเหล่านั้นอาจกลายเป็นโจรที่เข้ามาเผาเมือง และผู้ถือกุญแจเองที่จะต้องรับผิดชอบต่อความพินาศที่เกิดขึ้น การรักษาความเข้มงวดในการตรวจลงชื่อจึงไม่ใช่แค่หน้าที่ แต่เป็นการปกป้องบ้านเมืองจากภัยร้ายที่มองไม่เห็น"