'ศุภจี' ดีเดย์ปราบนอมินี สั่งปิดช่องโหว่จดทะเบียนบริษัท ดึงดาต้าบัญชีม้า-บัตรคนจนสกัดธุรกิจเถื่อน

22 ธ.ค. 2568 | 08:05 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ธ.ค. 2568 | 08:27 น.

'ศุภจี' รมว.พาณิชย์เปิดมหกรรมผนึก 17 หน่วยงาน ปราบนอมินี–บัญชีม้า ย้ำ “นักบัญชีคือด่านแรก” คุมเข้ม 4 คำสั่ง 2 ประกาศ ปิดช่องโหว่จดทะเบียนธุรกิจ ยกระดับความโปร่งใส ปกป้องเศรษฐกิจไทย

KEY

POINTS

  • กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับ 17 หน่วยงาน จัดอบรมนักบัญชีกว่า 1,600 ราย เพื่อให้ความรู้ในการป้องกันและปราบปรามการใช้ตัวแทนนอมินีและบัญชีม้า
  • เน้นย้ำบทบาทของนักบัญชีว่าเป็นด่านแรกที่สามารถสกัดกั้นการจัดตั้งบริษัทเพื่อทำธุรกิจผิดกฎหมายได้ตั้งแต่เริ่มต้น
  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้าออกมาตรการเข้มงวดในการจดทะเบียนบริษัท เช่น การใช้ข้อมูลบัญชีม้าและผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาคัดกรอง และการยืนยันตัวตนผู้เกี่ยวข้อง

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมรวมพลังปราบนอมินี บัญชีม้า เสริมภูมินักบัญชีไทย รู้ทันธุรกิจผิดกฎหมาย (Professional Skepticism of Illegal Businesses)” ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 โดยมีนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี สำนักงานบัญชี สมาคมวิชาชีพ และหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน 17 หน่วยงาน เข้าร่วมงานกว่า 1,625 ราย

ทั้งนี้ ระบบบัญชีม้าและนอมินีสร้างความเสียหายให้ประเทศอย่างมาก ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่กระทบกับทุกคน 

"ทุกคนที่เข้าวมงาน ทั้งหน่วยงานพันธมิตร สมาคมวิชาชีพบัญชี และนักบัญชีจากสำนักงานบัญชีทั่วประเทศ ล้วนเป็นกำลังสำคัญในการช่วยป้องกัน วันนี้ไม่ใช่เพียงเพื่อ รู้ แต่ต้อง ร่วมมือทำ เพราะนักบัญชีคือ ต้นทาง ที่สามารถสกัดกั้นปัญหาได้ตั้งแต่เริ่มต้น

หากเข้าใจบทบาทหน้าที่และร่วมมือกันอย่างจริงจัง เชื่อมั่นว่าจะสามารถป้องกันการใช้บัญชีม้าและนอมินีเข้ามาทำธุรกิจอย่างไม่โปร่งใส ซึ่งมีความเสี่ยงทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมได้"

นางศุภจี ระบุว่า จากการถอดบทเรียนในช่วงเสาวนา จะเห็นว่ามิจฉาชีพมีการพัฒนารูปแบบการกระทำผิดอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ทุกภาคส่วนก็ต้องพัฒนาและรู้เท่าทันเช่นกัน การเสริมความรู้ครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด จำเป็นต้องทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถปกป้องประเทศและระบบธุรกิจไทยได้อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะหน่วยงานหลัก ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรอย่างใกล้ชิด ได้ทำมาตรการเข้มข้น 4 คำสั่ง และ 2 ประกาศ เพื่อปิดช่องโหว่ตั้งแต่ต้นทาง อาทิ การนำข้อมูลผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐกว่า 13 ล้านราย และข้อมูลบัญชีม้ากว่า 90,000 รายชื่อ มาประกอบการคัดกรองการจดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งหากพบความเสี่ยงจะเชิญมาแสดงตัวตนและแสดงหลักฐานทางการเงิน รวมถึงการตรวจสอบกรณีใช้ที่อยู่ซ้ำซ้อน การจัดโครงสร้างกรรมการที่น่าสงสัย และการยืนยันตัวตนของผู้เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนบริษัท

นอกจากนี้ ยังได้ออกประกาศให้ผู้รับหน้าที่จดทะเบียนบริษัทต้องขึ้นทะเบียนแสดงตัวตน และให้ผู้รับรองการจดทะเบียนต้องเห็นตัวจริงและยืนยันตัวตนผ่านระบบ เพื่อยกระดับความโปร่งใสและลดโอกาสการแอบอ้าง

ปัจจุบัน ประเทศไทยมีนักบัญชีกว่า 80,000 ราย และสำนักงานบัญชีกว่า 7,000 แห่ง แต่มีสำนักงานบัญชีที่อยู่ในสมาคมบัญชีคุณภาพเพียง 191 ราย จึงขอเชิญชวนสำนักงานบัญชีเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสมาคมบัญชีคุณภาพ เพื่อเสริมทักษะ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และร่วมกันปกป้องระบบธุรกิจไทย

นอกจากนี้ขอความร่วมมือไม่สนับสนุนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ และรักษาความเชื่อมั่นของระบบเศรษฐกิจไทยในระยะยาว