KEY
POINTS
แหล่งข่าวจากสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ สำนักงานประกันสังคมได้จัดทำร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้ลดหย่อนการออกเงินสมทบของนายจ้างและผู้ประกันตนในท้องที่ที่ประสบภัยพิบัติอย่างร้ายแรง พ.ศ. .... เพื่อลดหย่อนการออกเงินสมทบของนายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และผู้ประกันตนตามมาตรา 39
สำหรับร่างประกาศกระทรวงแรงงาน ฉบับนี้ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
(1) ให้นายจ้างซึ่งขึ้นทะเบียนนายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ซึ่งขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน ในท้องที่จังหวัดตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี ได้รับการลดหย่อนการออกเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมประจำงวดเดือนธันวาคม พ.ศ. 2568 ถึงงวดเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2569 โดยให้ส่งเงินสมทบในอัตราฝ่ายละร้อยละสามของค่าจ้างของผู้ประกันตน
(2) ให้ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ซึ่งมีทะเบียนผู้ประกันตนในท้องที่ที่กำหนดตาม (1) ได้รับการลดหย่อนการออกเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมประจำงวดเดือนธันวาคม พ.ศ. 2568 ถึงงวดเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2569 โดยให้ส่งเงินสมทบในอัตราเดือนละสองร้อยแปดสิบสามบาท
(3) ในกรณีที่มีการส่งเงินเกินกว่าจำนวนเงินที่กำหนดไว้ตามประกาศ ให้นายจ้างหรือผู้ประกันตนยื่นคำร้องขอรับเงินในส่วนที่เกินคืนได้ ณ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัด หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสาขา
สำหรับเหตุผลของการจัดทำร่างประกาศฉบับนี้ เป็นผลมาจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากฝนตกหนักจนถึงขั้นวิกฤติ และระดับน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ทำให้นายจ้างไม่สามารถประกอบกิจการได้ ลูกจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 ได้รับผลกระทบต้องหยุดงานและขาดรายได้
โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ได้รายงานสถานการณ์สาธารณภัย ณ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 กรณีอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ รวม 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี ประสบปัญหาอุทกภัย ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,099,877 ครัวเรือน จำนวน 3,000,209 คน
คณะกรรมการประกันสังคม (ชุดที่ 14) ในการประชุมครั้งที่ 27/2568 เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 มีมติเห็นชอบลดอัตราเงินสมทบของนายจ้าง ผู้ประกันตนในท้องที่ที่ประสบอุทกภัยจำนวน 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตรัง นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่งวดการนำส่งเงินสมทบเดือนธันวาคม 2568 ถึงงวดเดือนพฤษภาคม 2569
ทั้งนี้เป็นไปตามมาตรา 46/1 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้
(1) กรณีนายจ้างและผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม จากเดิมอัตราฝ่ายละร้อยละ 5 เป็นอัตราฝ่ายละร้อยละ 3 ของค่าจ้างของผู้ประกันตน
(2) กรณีผู้ประกันตนมาตรา 39 ปรับลดอัตราเงินสมทบกองทุนประกันสังคม จากเดิมอัตราร้อยละ 9 (หรือเดือนละ 432 บาท) เป็นอัตราร้อยละ 5.90 ของค่าจ้างของผู้ประกันตน (หรือเดือนละ 283 บาท)