'โครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2' ดับฝันหรือไปต่อ? หลังยุบสภาฯ

12 ธ.ค. 2568 | 06:19 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ธ.ค. 2568 | 08:47 น.

ตรวจสอบข้อเท็จจริง 'คนละครึ่งพลัส เฟส 2' ที่เดิมที กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ เข้า ครม. 16 ธ.ค.นี้ แต่ทว่าถูก 'ยุบสภา' ตัดหน้า ด้าน 'ภราดร' ยืนยันต้องพับโครงการ ขณะที่ 'บวรศักดิ์' ย้ำรัฐบาลมีอำนาจเต็ม แต่ต้องขอ กกต.ก่อนทำได้หรือไม่ ชะตากรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจจะไปทางไหน? วันที่ 15 ธ.ค. นี้ คือคำตอบ

KEY

POINTS

  • การยุบสภาเกิดขึ้นก่อนที่โครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ทำให้สถานะของโครงการไม่แน่นอน
  • มีความเห็นทางกฎหมายที่แตกต่างกันเกี่ยวกับอำนาจของรัฐบาลรักษาการ แต่มีข้อสรุปว่าโครงการสามารถเดินหน้าต่อได้หากได้รับความเห็นชอบจาก กกต.
  • ชะตากรรมของโครงการจะถูกตัดสินในการประชุมระหว่างรัฐบาลและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 15 ธันวาคม

ทันทีที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2568 เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568

ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัฐบาลเสียงข้างน้อยเผชิญความท้าทายหลายประการ ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง

คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นในใจประชาชนและผู้ประกอบการคือ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลเตรียมผลักดันอย่าง "โครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2" จะถูกยุติลงกลางคันหรือไม่?

โครงการนี้ถือเป็นมาตรการสำคัญที่กระทรวงการคลังได้เตรียมเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้

แต่การประกาศยุบสภาได้เกิดขึ้นก่อนที่วาระนี้จะถูกเสนอเข้าครม. ทำให้เกิดการตีความทางกฎหมายที่แตกต่างกันเกี่ยวกับอำนาจของรัฐบาลชุดปัจจุบัน

'โครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2' ดับฝันหรือไปต่อ? หลังยุบสภาฯ

เสียงที่ 1: "ดับฝัน" – รัฐบาลรักษาการมีข้อจำกัด

นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ยืนยันชัดเจนว่า โครงการคนละครึ่งเฟส 2 ต้องถูกพับเก็บไปก่อน เนื่องจากข้อจำกัดทางกฎหมายเลือกตั้งไม่เอื้อให้รัฐบาลรักษาการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในลักษณะนี้ได้

การถูกตัดจบของโครงการเกิดขึ้นแม้ว่ากระทรวงการคลังจะเตรียมเสนอเรื่องเข้า ครม. แล้วก็ตาม

เสียงที่ 2: "ต้องรอฟัง กกต." – การตัดสินใจไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายบริหารเพียงฝ่ายเดียว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความจำเป็นที่จะต้องหยุดโครงการนี้ไปเลยหรือไม่ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กล่าวว่า ทุกอย่างจะต้องรอฟังความเห็นจาก นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะว่าอย่างไร

ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าการตัดสินใจขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิจ รวมถึงโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 จะต้องมีการหารือกับ กกต.

เสียงที่ 3: "อำนาจเต็ม แต่ต้องขอ กกต." – เส้นทางที่ยังเปิดอยู่

นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมายืนยันเพื่อคลายความกังวลว่า รัฐบาลหลังยุบสภาไม่ได้เป็นเพียง “รัฐบาลรักษาการ” ตามที่นักวิชาการเรียก แต่ยังมี ครม. ปฏิบัติหน้าที่และมีอำนาจเหมือนเดิมทุกอย่างตามรัฐธรรมนูญ จนกว่าจะมี ครม. ชุดใหม่เข้ารับหน้าที่

อย่างไรก็ตาม นายบวรศักดิ์ระบุว่า มีสิ่งต้องห้ามทำ 2 ข้อ คือ 1.ห้ามทำโครงการใหม่ที่ผูกพัน ครม. ชุดใหม่ และ 2.ห้ามนำทรัพยากรของรัฐไปใช้หาเสียงเลือกตั้ง

สำหรับโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 นั้น นายบวรศักดิ์ชี้ว่า เนื่องจากเป็นเรื่องที่ ครม. เคยพูดไว้ก่อนที่จะยุบสภา ดังนั้น หากจะดำเนินการต่อเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ จำเป็นจะต้องนำเรื่องนี้ไปหารือกับ กกต. ก่อนว่าสามารถอนุมัติให้ทำได้หรือไม่

นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 เรื่องที่ต้องขอ กกต. คือ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและการใช้งบประมาณ งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

"รัฐบาลจะนัดประชุมกับ กกต. ในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ เพื่อหารือถึงเรื่องเลือกตั้ง รวมถึงเรื่องที่รัฐบาลพูดไว้ก่อนที่จะยุบสภา เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่าจะอนุมัติให้ทำได้หรือไม่"

บทสรุป: วันชี้ชะตา 15 ธันวาคม

แม้จะมีเสียงที่ประกาศให้โครงการถูกพับไปก่อน, แต่ในทางปฏิบัติและตามการตีความทางกฎหมาย ช่องทางในการเดินหน้าของโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ก็ยังเปิดอยู่

โดยมีเงื่อนไขสำคัญเพียงข้อเดียวคือการได้รับความเห็นชอบจาก กกต.

รัฐบาลจึงได้นัดประชุมหารือร่วมกับ กกต. ในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ เพื่อพิจารณาอำนาจหน้าที่และการอนุมัติโครงการต่าง ๆ

วันดังกล่าวจึงเป็นวันชี้ขาดว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประชาชนรอคอยนี้จะได้เดินหน้าต่อ หรือต้องรอรัฐบาลใหม่ที่มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพเข้ามาทำหน้าที่ตามเหตุผลการยุบสภา