สรท. ห่วงชายแดนตึงเครียดกระทบส่งออก-ต้นทุนขนส่งพุ่ง

11 ธ.ค. 2568 | 04:23 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ธ.ค. 2568 | 04:54 น.

สรท.ชี้ความตึงเครียดไทย–กัมพูชากระทบผู้ส่งออก หลายรายหยุดขนส่งทางด่าน หันใช้เรือ ส่งผลต้นทุนพุ่ง เตือนหากยืดเยื้ออาจฉุดเศรษฐกิจช่วงปีใหม่ แนะรัฐบาลใช้การทูตเชิงรุก คุมพื้นที่ชายแดน

KEY

POINTS

  • สรท. แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนที่ตึงเครียด ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและการส่งออกของไทย
  • ผู้ส่งออกจำนวนมากต้องเปลี่ยนเส้นทางขนส่งจากทางบกเป็นทางเรือ ทำให้ต้นทุนโลจิสติกส์และระยะเวลาในการขนส่งเพิ่มสูงขึ้น กระทบความสามารถในการแข่งขัน
  • หากสถานการณ์ยืดเยื้อ อาจซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่

นายธนากร เกษตรสุวรรณ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท. ) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก ซึ่งทางสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกรณีที่เกิดการเผชิญหน้าหรือมีความเสี่ยงปะทะเพิ่มเติม ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวช้าและมีความเปราะบางสูง

ทั้งนี้หากสถานการณ์ที่ตึงเครียดต่อเนื่องมีแนวโน้มส่งผลกระทบโดยตรง กับความมั่นคงของเส้นทางการค้าชายแดน ต้นทุนด้านโลจิสติกส์และเวลาขนส่ง รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน ผู้ส่งออก และผู้บริโภค

โดยอาจจะซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจที่กำลังชะลออยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่ปกติควรเป็นฤดูกาลที่กิจกรรมเศรษฐกิจฟื้นตัว

ขณะเดียวผลกระทบจริงที่เกิดขึ้นต่อผู้ส่งออกไทย ปัจจุบันผู้ส่งออกจำนวนมากได้ หยุดการขนส่งผ่านด่านชายแดน และจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนไปใช้เส้นทางเรือ (sea freight) และการลากตู้ทางบกในระยะทางที่ไกลขึ้น (inland haulage)

ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความล่าช้า ซึ่งการเปลี่ยนเส้นทางดังกล่าวทำให้ ต้นทุนโลจิสติกส์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ระยะเวลาขนส่งยาวขึ้น และกระทบต่อความสามารถแข่งขันของผู้ส่งออกไทย โดยผลกระทบดังกล่าวรุนแรงเป็นพิเศษสำหรับ SMEs ที่มีความอ่อนไหวต่อต้นทุนและสภาพคล่อง

อีกทั้งในช่วงปีใหม่ หากสถานการณ์ยังคงตึงเครียดหรือเกิดเหตุปะทะเพิ่มเติม อาจส่งผลต่อความรู้สึกปลอดภัยของประชาชน การเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลอาจทำให้บรรยากาศเศรษฐกิจช่วงปีใหม่ “อ่อนแรงกว่าที่ควรจะเป็น”แต่หากรัฐบาลควบคุมสถานการณ์ได้ดี ใช้การทูตเชิงรุก และสื่อสารอย่างต่อเนื่องผลกระทบดังกล่าวจะลดลงและจำกัดอยู่ในบางพื้นที่เท่านั้น

อย่างไรก็ดี สรท.อย่างเสนอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง ดังนี้

1.ใช้สันติวิธีและการทูตเป็นกลไกหลัก

เพื่อคลี่คลายสถานการณ์และป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลาม ซึ่งจะช่วยรักษาความเชื่อมั่นจากคู่ค้าต่างประเทศและปกป้องภาพลักษณ์ของประเทศไทย

2.บริหารจัดการพื้นที่ชายแดนให้ปลอดภัย พร้อมดำเนินมาตรการรักษาเสถียรภาพเส้นทางโลจิสติกส์

รวมถึงการเตรียมความพร้อมของด่านทางเลือกหรือเส้นทางขนส่งสำรอง เพื่อไม่ให้ระบบส่งออกหยุดชะงัก

3.สื่อสารข้อมูลอย่างโปร่งใสและต่อเนื่อง

เพื่อลดความกังวลของประชาชน นักท่องเที่ยว และภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งบรรยากาศด้านความเชื่อมั่นมีผลโดยตรงต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

4.พิจารณามาตรการบรรเทาต้นทุนโลจิสติกส์เร่งด่วนเช่น

  • มาตรการลดค่าใช้จ่ายท่าเรือ
  • การอำนวยความสะดวกพิธีการศุลกากร
  • สิทธิประโยชน์ภาษีชั่วคราว

เพื่อช่วยผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนเส้นทางขนส่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้