กอน.ไฟเขียว ราคาอ้อยปี 68/69 ตันละ 890 บาท ราคาเดียวทั่วประเทศ

29 พ.ย. 2568 | 10:16 น.
อัปเดตล่าสุด :29 พ.ย. 2568 | 10:16 น.

กอน. เคาะราคาอ้อยขั้นต้นปี 68/69 ที่ 890 บาทต่อตัน ราคาเดียวทั่วประเทศ พร้อมมาตรการสนับสนุนชาวไร่–โรงงาน เดินหน้านโยบายตัดอ้อยสด ลดอ้อยเผา คุมสัดส่วนรับเข้าโรงงานไม่เกิน 20%

นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 มีมติเห็นชอบให้กำหนดราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2568/2569 ที่ 890 บาทต่อตัน ระดับความหวาน 10 ซีซีเอส

พร้อมกำหนดอัตราขึ้น–ลงของราคาอ้อยที่ 53.40 บาทต่อ 1 ซีซีเอส และผลตอบแทนการผลิต–จำหน่ายน้ำตาลทรายที่ 381.43 บาทต่อตัน

โดยได้ผ่านกระบวนการประชาพิจารณ์จากเกษตรกร โรงงานน้ำตาล และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียครบถ้วนตามกฎหมายแล้ว ทั้งนี้ จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ก่อนประกาศในราชกิจจานุเบกษา

การพิจารณาราคาอ้อยปีนี้เป็นประเด็นที่มีความเห็นอย่างเข้มข้นในที่ประชุมก่อนหน้า (ครั้งที่ 8/2568) ระหว่างชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาลว่า ควรใช้ราคาเดียวทั่วประเทศเหมือนเดิม หรือกำหนด 2 ราคา เพื่อสะท้อนคุณภาพผลผลิตของบางเขตคำนวณราคาอ้อยที่มีค่า yield น้ำตาลสูงกว่า

นายใบน้อย สุวรรณชาตรี เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.)

อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายได้ข้อสรุปตรงกันให้ใช้ “ราคาเดียวทั่วประเทศ” เช่นเดิม ขณะเดียวกัน โรงงานน้ำตาลส่วนใหญ่ยินดีจ่ายเงินเพิ่มอีก 40 บาทต่อตัน ให้ชาวไร่ในเขตคำนวณราคาอ้อยกลุ่ม 1, 3, 6 และ 9 เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องระหว่างรอการจ่ายจริง

นายใบน้อยระบุว่า สำนักงาน สอน. ได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือชาวไร่อ้อยตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายธนกร วังบุญคงชนะ โดยเฉพาะการลดการเผาอ้อย ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญในฤดูการผลิต 2568/69

ตามมาตรการแก้ปัญหา PM 2.5 ที่ กอน. เห็นชอบแล้ว กำหนดให้โรงงานน้ำตาล รับอ้อยเผาเข้าหีบไม่เกิน 20% ต่อวัน, หยุดรับอ้อยช่วงวันที่ 27 ธ.ค. 2568 – 4 ม.ค. 2569, และรับเฉพาะอ้อยสดไปจนถึง วันเด็ก 10 ม.ค. 2569

ในส่วนการสนับสนุนเกษตรกร สอน. เตรียมโครงการช่วยเหลือซื้อปัจจัยการผลิตสำหรับชาวไร่ที่ ตัดอ้อยสดสะอาด 100% รวมถึงโครงการสนับสนุนเครื่องจักรกลสาง–กวาด–อัด–สับใบอ้อยภายใต้โมเดล Farmer Plus คนละครึ่ง

โดยให้โรงงานเป็นแม่ข่ายรวมกลุ่มชาวไร่กว่า 4,515 กลุ่ม รวมกว่า 60,000 ราย และรัฐสนับสนุนค่าอุปกรณ์เครื่องจักรครึ่งหนึ่งของราคา

มาตรการจูงใจอื่นยังรวมถึง

  • การลดหย่อนภาษีให้โรงงานน้ำตาลที่รับอ้อยสดตามเกณฑ์
  • ลดหย่อนภาษีให้โรงไฟฟ้าชีวมวลที่รับซื้อใบ–ยอดอ้อยเป็นเชื้อเพลิง
  • ส่งเสริมการลงทุน BOI ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • นำเข้ารถตัดอ้อยปลอดอากร เพื่อเพิ่มศักยภาพการเก็บเกี่ยวแบบไม่เผา

สอน. จะเดินหน้าแนวคิด “ทำดี ต้องได้ดี” ส่งเสริมเกษตรกรและโรงงานที่ร่วมลดอ้อยเผา ตั้งเป้าทำสถิติอ้อยเผาให้ต่ำกว่า 14% เพื่อยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรมอ้อยของไทยควบคู่การดูแลสิ่งแวดล้อม