จากกรณีที่ ครม. อนุมัติราคาอ้อยขั้นต้น 1,160 บาท/ตันทั่วประเทศ พร้อมมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ได้มีมติเห็นชอบการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2567/2568
นอกจากนี้ ครม. ยังได้อนุมัติผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2567/2568 เท่ากับ 497.14 บาท/ตันอ้อย
นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. ได้มีข้อเสนอเพิ่มเติมให้พิจารณามาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีผลิตภาพต่ำกว่าพื้นที่อื่น ๆ โดยเน้นการส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น การสนับสนุนเครื่องจักรกลการเกษตร เพื่อลดต้นทุนแรงงานและระยะเวลาการผลิต รวมถึงส่งเสริมการตัดอ้อยสดแทนการเผาอ้อย
นอกจากนี้ ครม. ยังได้เร่งรัดให้ศึกษาแนวทางการกำหนดราคาอ้อยและผลตอบแทนการผลิตและจำหน่ายน้ำตาลทรายขั้นต้นที่แตกต่างกันตามเขตการผลิต เพื่อให้ราคาอ้อยและน้ำตาลมีความเป็นธรรมและสะท้อนความสามารถในการผลิตที่แท้จริงของแต่ละพื้นที่ พร้อมทั้งให้มีการคำนวณต้นทุนการผลิตอ้อยและน้ำตาลที่ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับ
ครม. ยังได้ให้ความสำคัญกับการเพิ่มมูลค่าของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล โดยส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงต่อยอดจากอ้อย เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ เคมีภัณฑ์ และนวัตกรรมอาหาร ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรม และส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาวของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลไทย
สำหรับกรณีที่ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ ฤดูการผลิตปี 2566/2567 มีเขตคำนวณราคาอ้อยที่มีราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฯ ต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้นฯ จำนวน 4 เขต (เขต 2, 3, 4 และ 6) จะมีการชดเชยค่าส่วนต่างโดยกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย โดยจะมีการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนฯ ในอัตราตันละศูนย์บาททุกเขตคำนวณราคาอ้อย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ
ซี.ซี.เอส. (CCS) หมายถึง ปริมาณร้อยละของน้ำตาลที่จะสามารถผลิตเป็นการค้าเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งเป็นสูตรคำนวณที่นำมาจากออสเตรเลีย ใช้คำนวณการหีบอ้อยเอาน้ำตาลที่มีอยู่ทั้งหมดในอ้อยออกมาได้เท่าไหร่ การเก็บตัวอย่างเพื่อวัดความหวานทำได้โดยเจาะเอาน้ำอ้อยจากลำ หรือตัดลำตัวอย่างมาสกัดเอาน้ำอ้อย
การกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นที่ 1,160 บาท/ตันทั่วประเทศ และมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ที่ ครม. อนุมัติในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยให้มีรายได้ที่เหมาะสม และส่งเสริมให้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของไทยมีความยั่งยืนในระยะยาว.