ปภ.สรุปน้ำท่วมทั่วไทย เดือดร้อน 2.6 ล้านคน บ้านจมน้ำ 9.7 แสนหลัง

25 พ.ย. 2568 | 06:47 น.
อัปเดตล่าสุด :25 พ.ย. 2568 | 07:28 น.

ปภ.รายงานอัปเดตพื้นที่น้ำท่วมล่าสุดทั่วไทย 25 พ.ย. 68 ยังจมน้ำ 20 จังหวัด ยอดผู้เสียชีวิตรวม 41 ราย โดยเฉพาะที่พระนครศรีอยุธยา 19 ราย และภาคใต้ 13 ราย ประชาชน 941,768 ครัวเรือน 2.6 ล้านคนเดือดร้อน นครศรีธรรมราช-สงขลา ระดับน้ำยังเพิ่ม.

KEY

POINTS

  • สถานการณ์อุทกภัยทั่วประเทศ (ณ 25 พ.ย. 68) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม 41 ราย ประชาชนเดือดร้อน 2.6 ล้านคน และบ้านเรือนได้รับผลกระทบกว่า 9.7 แสนหลัง
  • สาเหตุหลักแบ่งตามพื้นที่ โดยภาคเหนือและภาคกลางเกิดจากน้ำล้นตลิ่ง (เสียชีวิต 28 ราย) ส่วนภาคใต้เกิดจากฝนตกหนัก (เสียชีวิต 13 ราย)
  • แนวโน้มสถานการณ์ในภาคเหนือและภาคกลางส่วนใหญ่ระดับน้ำลดลง แต่พื้นที่ภาคใต้ยังคงต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักและระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดทำรายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัยทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เวลา 06.00 น.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยที่ยังคงส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ของประเทศไทย แบ่งออกเป็นสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลาง รวม 11 จังหวัด และสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ รวม 9 จังหวัด

สรุปภาพรวมความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบ

ภาคเหนือและภาคกลาง (น้ำไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง): ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 11 จังหวัด. ประชาชนได้รับผลกระทบรวม 143,073 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 28 ราย

ภาคใต้ (ฝนตกหนักมาก): ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 9 จังหวัด. ประชาชนได้รับผลกระทบรวม 798,695 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 13 ราย.

สถานการณ์อุทกภัยแยกรายภาค

ภาคเหนือ รวม 2 จังหวัด 5 อำเภอ 29 ตำบล 344 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,412 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย

  • พิษณุโลก: เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำไหลหลากในพื้นที่ อ.บางระกำ. มีผู้ได้รับผลกระทบ 598 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย. ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำยมยังคงทรงตัวและสูงกว่าตลิ่ง 2.11 เมตร
  • นครสวรรค์: แม่น้ำยมและแม่น้ำน่านเอ่อล้นเข้าท่วมใน 4 อำเภอ (ชุมแสง เมืองฯ โกรกพระ พยุหะคีรี). ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,814 ครัวเรือน. ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มลดลง.

ภาคกลาง รวม 9 จังหวัด 44 อำเภอ 408 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 135,661 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 27 ราย

  • พระนครศรีอยุธยา: ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งใน 12 อำเภอ ทำให้ 65,238 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบ และมีผู้เสียชีวิตสูงสุดในกลุ่มภาคกลางถึง 19 ราย. ความเสียหายครอบคลุม โรงเรียน 33 แห่ง โรงพยาบาล 1 แห่ง สถานที่ราชการ 8 แห่ง และวัด 38 แห่ง. ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง แต่ยังสูงกว่าตลิ่ง 0.89 เมตร.
  • สุพรรณบุรี: ได้รับผลกระทบจากน้ำแม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นใน 7 อำเภอ 21,689 ครัวเรือน เสียชีวิต 3 ราย. ปัจจุบันระดับน้ำลดลง.
  • สิงห์บุรี: ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งใน 3 อำเภอ 7,603 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย.
  • จังหวัดอื่น ๆ ที่ยังมีสถานการณ์น้ำท่วมและมีผู้เสียชีวิต: ปทุมธานี เสียชีวิต 1 ราย (5,830 ครัวเรือน), นนทบุรี เสียชีวิต 1 ราย (16,092 ครัวเรือน).
  • จังหวัดที่ได้รับผลกระทบแต่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ระดับน้ำลดลง):
    • อุทัยธานี: 2,981 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย 113 ไร่. มีการติดตั้งสะพานเบลีย์แทนสะพานเก่าที่ชำรุด
    • ชัยนาท: 5,240 ครัวเรือน. มีการติดตั้งสุขาชั่วคราวและบรรจุกระสอบทรายเสริมคันกั้นน้ำชั่วคราว
    • อ่างทอง: 4,751 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 788 ไร่. มีการสนับสนุนเรือเพื่อขนย้ายผู้ประสบภัย 53 ลำ
    • นครปฐม: 6,237 ครัวเรือน. มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 32 เครื่อง

ภาคใต้

สถานการณ์ในภาคใต้เกิดจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่มีกำลังแรงขึ้น และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง. มีสถานการณ์ต่อเนื่องตั้งแต่ 17 พ.ย. 68. ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 9 จังหวัด 98 อำเภอ 643 ตำบล 4,688 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 798,695 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 13 ราย. สถานการณ์น้ำท่าในหลายจังหวัดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น.

จังหวัดที่ได้รับผลกระทบและมีความเสียหายสูง:

  • สงขลา: ได้รับผลกระทบมากที่สุด 243,568 ครัวเรือน ใน 16 อำเภอ. มีการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว 5 จุด ในเทศบาลนครหาดใหญ่ ยอดผู้อพยพรวม 1,224 คน.
  • นครศรีธรรมราช: ได้รับผลกระทบ 223,221 ครัวเรือน ใน 22 อำเภอ มีผู้เสียชีวิต 6 ราย. สถานการณ์น้ำเพิ่มขึ้น. มีการเตรียมความพร้อมจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวรวม 14 แห่ง.
  • พัทลุง: 151,622 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ เสียชีวิต 2 ราย. สถานการณ์น้ำเพิ่มขึ้น. มีการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 7 จุด ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง.
  • นราธิวาส: 60,897 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ ใน 11 อำเภอ. สถานการณ์น้ำเพิ่มขึ้น. มีการจัดจุดอพยพเพื่อความปลอดภัย 37 จุด.
  • ปัตตานี: 58,009 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ เสียชีวิต 3 ราย. มีการจัดตั้งศูนย์พักพิง 58 แห่ง รองรับผู้ประสบภัย 1,095 คน.
  • ยะลา: 21,950 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ เสียชีวิต 2 ราย. มีการจัดตั้งศูนย์พักพิง 6 แห่ง ผู้อพยพ 220 คน.
  • จังหวัดอื่น ๆ ในภาคใต้: สุราษฎร์ธานี (14,334 ครัวเรือน, ระดับน้ำลดลง), ตรัง (12,647 ครัวเรือน, ระดับน้ำเพิ่มขึ้น), สตูล (12,447 ครัวเรือน, ระดับน้ำเพิ่มขึ้น).

การคาดการณ์ลักษณะอากาศ

กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนว่า ภาคใต้ตอนล่างยังมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง (โดยเฉพาะ นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล) เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงยังคงปกคลุม.

คลื่นลม: คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และมากกว่า 3 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน.

อากาศหนาวเย็น: ประเทศไทยตอนบน (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) จะมีอากาศเย็นถึงหนาว. ประชาชนควรดูแลรักษาสุขภาพ และระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดจากสภาพอากาศแห้งและลมแรง.

สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดลง แต่ในพื้นที่ภาคใต้ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเนื่องจากมีปริมาณฝนสะสมสูง และระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

 

ที่มา - กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย