‘เอกนิติ-บีโอไอ’ รุกดึงทุนญี่ปุ่นปักหมุดอุตสาหกรรมไอเทคในไทย

20 พ.ย. 2568 | 04:58 น.
อัปเดตล่าสุด :20 พ.ย. 2568 | 04:58 น.

รองนายกฯเอกนิตินำทัพบีโอไอเดินหน้ารุกดึงทุนญี่ปุ่นปักหมุดอุตสาหกรรมไอเทคในไทย ลุยนำเสนอทิศทางนโยบายรัฐบาล และมาตรการส่งเสริม

KEY

POINTS

  • รองนายกฯ เอกนิติ และบีโอไอ จัดโรดโชว์ที่ญี่ปุ่น โดยจะจัดสัมมนาใหญ่ Thailand-Japan Investment Forum 2025 ที่กรุงโตเกียว เพื่อนำเสนอนโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุน
  • มุ่งดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต โดยเฉพาะยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เซมิคอนดักเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ
  • มีกำหนดการเข้าพบผู้ผลิตรถยนต์ 6 ค่ายใหญ่ของญี่ปุ่น และหารือกับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและรักษาฐานการลงทุน

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) เปิดเผยว่า นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และบีโอไอจะดำเนินการดึงดูดการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น

โดยบีโอไอร่วมกับธนาคาร SMBC และพันธมิตรภาคธุรกิจญี่ปุ่นจัดสัมมนาใหญ่ Thailand-Japan Investment Forum 2025 ที่ Tokyo Kaikan กรุงโตเกียว เพื่อนำเสนอทิศทางนโยบายของรัฐบาลและมาตรการต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาคในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต รวมถึงโอกาสการลงทุนในสาขาต่าง ๆ และปัจจัยสนับสนุนการลงทุนในประเทศไทย 

ขณะนี้มีนักลงทุนและผู้บริหารบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นลงทะเบียนเข้าร่วมงานแล้วมากกว่า 400 ราย ซึ่งในงานดังกล่าวรองนายกรัฐมนตรีจะนำเสนอนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ในขณะที่บีโอไอ จะชี้ให้เห็นถึงโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย รวมถึงสิทธิประโยชน์และมาตรการสนับสนุนจากบีโอไอ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนญี่ปุ่น 

นอกจากนี้ คณะรัฐบาลไทยจะพบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม (METI) เพื่อหารือความร่วมมือด้านการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญ และการพัฒนาพลังงานใหม่ รวมถึงแนวทางสร้างความร่วมมือเพื่อรักษาฐานการลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยให้มั่นคง และสามารถพัฒนาต่อไปได้ในอนาคต ท่ามกลางความท้าทายและความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก  

‘เอกนิติ-บีโอไอ’ รุกดึงทุนญี่ปุ่นปักหมุดอุตสาหกรรมไอเทคในไทย

“การโรดโชว์ดังกล่าว จะมีการจัดประชุมร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น 6 ราย ซึ่งมีฐานการผลิตขนาดใหญ่ในประเทศไทย ได้แก่ โตโยต้า ฮอนด้า อีซูซุ มาสด้า มิตซูบิชิ และนิสสัน เพื่อรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น รวมถึงนำเสนอมาตรการสนับสนุนล่าสุดจากรัฐบาลและบีโอไอ เพื่อสร้างความมั่นใจว่ารัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนและต่อเนื่องในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านจากยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) ไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบต่าง ๆ (xEV)”

นอกจากนี้ จะหารือกับธนาคารรายใหญ่ของญี่ปุ่น และบริษัทในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของโลก เพื่อเชิญชวนให้มาขยายการลงทุนในประเทศไทย 

“ญี่ปุ่นถือเป็นพันธมิตรสำคัญและมีบทบาทในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมานาน ทั้งด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาอุตสาหกรรม และเป็นประเทศที่มีเงินลงทุนสะสมมากที่สุดในประเทศไทย“

นายนฤตม์ กล่างอีกว่า การโรดโชว์ดังก่าวมีเป้าหมายสำคัญ คือ การสร้างความมั่นใจว่ารัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนนักลงทุนญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มที่มีฐานอยู่ในไทยแล้วและกลุ่มที่กำลังตัดสินใจโยกย้ายฐานการผลิต อีกทั้งจะยกระดับความร่วมมือในการต่อยอดอุตสาหกรรมที่ญี่ปุ่นเป็นผู้นำในปัจจุบัน ไปสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ พลังงานใหม่ รวมถึงการดึงการลงทุนจากกลุ่ม SMEs และ Startup ของญี่ปุ่น ซึ่งมีศักยภาพที่จะออกไปลงทุนในต่างประเทศ

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมาญี่ปุ่นยังมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ ปี 2563 – 2568 (9 เดือน) ญี่ปุ่นได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุน จำนวน 1,493 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 4.2 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี ยานยนต์และชิ้นส่วน โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว จาก 35,469 ล้านบาท เพิ่มเป็น 73,754 ล้านบาท