คิกออฟ 'สุขกาย สบายกระเป๋า' เช็กร้านขายยา 3.4 พันแห่งทั่วประเทศ ซื้อยานอก รพ.

04 พ.ย. 2568 | 09:00 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ย. 2568 | 09:53 น.

นายกฯ คิกออฟ โครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” เพิ่มสิทธิประชาชนเลือกซื้อยานอกโรงพยาบาล ด้านรพ.เอกชนเข้าร่วมกว่า 300 แห่ง ร้านขายยาลงทะเบียนเข้าร่วมกว่า 3,400 ร้าน ลดภาระค่ารักษากว่า 32,000 ล้านบาทต่อปี

KEY

POINTS

  • โครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” เปิดให้ผู้ป่วยโรงพยาบาลเอกชนสามารถนำใบสั่งยาไปซื้อที่ร้านขายยาภายนอกได้ เพื่อเป็นทางเลือกและลดภาระค่าใช้จ่าย
  • มีร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการกว่า 3,400 แห่งทั่วประเทศ และโรงพยาบาลเอกชนอีกกว่า 300 แห่ง พร้อมให้บริการแล้ว
  • ประชาชนสามารถสังเกตร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้จากสติกเกอร์สัญลักษณ์ "สุขกาย สบายกระเป๋า" หรือค้นหาผ่านช่องทางออนไลน์และแอปพลิเคชันต่างๆ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า รัฐบาล ได้เริ่มต้นโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” โดยมอบหมายให้ทางกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงสาธารณสุข หาแนวทางแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในเรื่องของการรักษาพยาบาล พร้อมร่วมมือจากภาคเอกชนโดยเฉพาะสมาคมโรงพยาบาลเอกชนในการขับเคลื่อนนโยบายนี้ร่วมกัน

สำหรับโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” นี้ จะดำเนินการโดยให้โรงพยาบาลเอกชน เปิดเผยค่ายา เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนสามารถตัดสินใจเลือกซื้อยาในโรงพยาบาล หรือนอกโรงพยาบาลก็ได้ เพิ่มทางเลือก ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วย เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มมากขึ้น และในขณะเดียวกันก็ลดความแออัดของโรงพยาบาลของรัฐ

ขณะนี้มีโรงพยาบาลเอกชนเข้าร่วมโครงการฯ แล้วมากกว่า 300 แห่ง และมีร้านขายยาจำนวนมากกว่า 3,400 แห่ง ลงทะเบียนกับทาง อย. มีตราสัญลักษณ์โครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” เตรียมพร้อมที่จะให้บริการกับประชาชนแล้ว 

นอกจากนี้ประชาชนยังสามารถรับบริการผ่าน Telepharmacy หรือ การให้บริการเภสัชกรรมทางไกลผ่านเทคโนโลยี ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสภาเภสัชกรรมอีกทางหนึ่งด้วย ทำให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมด้านราคาและได้ซื้อยาจากร้านขายยาที่มีคุณภาพมาตรฐาน คาดว่าจะช่วยลดค่าของชีพประชาชนได้ไม่น้อยกว่า 32,000 ล้านบาทต่อปี

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์กำลังดำเนินโครงการสำคัญเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ายาที่โรงพยาบาลเอกชน ซึ่งมักจะมีราคาสูงกว่าร้านขายยาทั่วไป เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานที่แตกต่างกัน อาทิ ค่าบุคลากร ค่าสถานที่ และค่าบริการอื่น ๆ โครงการนี้มีเป้าหมายหลักในการเพิ่มทางเลือกให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาได้ในราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม โดยคาดว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยได้เฉลี่ยถึง 30% 

 

คิกออฟ 'สุขกาย สบายกระเป๋า' เช็กร้านขายยา 3.4 พันแห่งทั่วประเทศ ซื้อยานอก รพ.

 

"การดำเนินการนี้ไม่ใช่การบังคับโรงพยาบาลให้ลดราคายาโดยตรง แต่เป็นการสร้างกลไกตลาดเสรีให้เกิดการแข่งขันด้านราคา ซึ่งจะส่งผลให้โรงพยาบาลต้องปรับราคาให้เป็นธรรมมากขึ้นเพื่อดึงดูดผู้ป่วย" 

เภสัชกรชยินท์ จตุรพรประสิทธิ์ นายกสมาคมร้านขายยา ระบุว่า ร้านขายยามีความพร้อมในการจ่ายยาตามคำสั่งแพทย์ตั้งแต่ปี 2510 คาดว่าเมื่อดำเนินโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” นี้ จะช่วยยกระดับมาตรฐานร้านขายยาให้สามารถจ่ายยาตามใบสั่งแพทย์ได้มากยิ่งขึ้น โดยผ่านในรูปแบบของใบสั่งยาที่เป็นทางการ ซึ่งจะทำให้การจัดยาสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง 

เบื้องต้นมีร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการฯ แล้วประมาณ 5,000 ร้าน ทั่วประเทศ จากจำนวนร้านขายยาทั้งสิ้น 21,000 ร้าน และมั่นใจว่าในอนาคตจะมีร้านขายยาเข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มขึ้นอีก โดยหลังการคลิกออฟในวันนี้ร้านขายยาสามารถให้บริการได้ทันที ส่วนราคายาน่าจะเป็นไปตามกลไกของตลาด ทำสำคัญโครงการฯ นี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้ประชาชนมีช่องทางในการซื้อยามากขึ้น 

 

คิกออฟ 'สุขกาย สบายกระเป๋า' เช็กร้านขายยา 3.4 พันแห่งทั่วประเทศ ซื้อยานอก รพ.

 

ด้าน นพ.สุรชัย แก้วหิรัญ ผู้อำนวยการฝ่ายแพทย์โรงพยาบาลวิชัยเวช อ้อมน้อย เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลพร้อมสนับสนุนโครงการฯ นี้ ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีทางเลือกในการรับบริการซื้อยามากขึ้น ประเมินว่าช่วงแรกจะมีประชาชนใช้บริการซื้อยานอกโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ของคนไข้ที่มารับบริการ และน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต เป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันให้ร้านขายยายกระดับมาตรฐานยิ่งขึ้น ในส่วนราคายาประเมินว่าน่าจะลดลงได้มากกว่านี้เนื่องจากมีการแข่งขันมากขึ้น 

โดยเฉพาะยาจากต่างประเทศ และที่สำคัญคนไข้จะเข้าถึงยาได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลเอกชนก็จะต้องดูแลในเรื่องของคุณภาพการรักษาและบุคลากรทางการแพทย์

 

คิกออฟ 'สุขกาย สบายกระเป๋า' เช็กร้านขายยา 3.4 พันแห่งทั่วประเทศ ซื้อยานอก รพ.

 

สำหรับ แอปพลิเคชั่นที่บริการจำหน่ายยาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (Applications) เข้าร่วมแล้ว 12 แบรนด์ เช่น Boots, Tops Care, Fascino, GPO รวมถึงแอปพลิเคชันด้านยาอีก 8 แบรนด์ เช่น Telehealth, PharmCare และ All Pharmacy

 ช่องทางค้นหา "ร้านยา สุขกาย สบายกระเป๋า" 

1. สติกเกอร์สัญลักษณ์ ร้านยาที่เข้าร่วมจะได้รับและนำ สติกเกอร์ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ไปติดไว้ที่หน้าร้าน เพื่อให้ผู้บริโภคเห็นได้อย่างชัดเจน

2. ระบบค้นหาออนไลน์ อย. จะพัฒนาระบบการค้นหาและแสดงตำแหน่งร้านยา "สุขกาย สบายกระเป๋า" พร้อมแสดงข้อมูลการติดต่อ เช่น เบอร์โทร หรือ ID LINE

3. ช่องทางการตรวจสอบ ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อร้านยาแนะนำได้ผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงานที่ร่วมมือ ได้แก่ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ, และ สำนักงานคณะกรรมการองค์การอาหารและยา (อย.)

4. แพลตฟอร์ม/แอปพลิเคชัน กรมการค้าภายในเตรียมพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ “ร้านยาสุขกาย สบายกระเป๋า” เพื่อให้ประชาชนสามารถค้นหาร้านยาในพื้นที่ใกล้เคียงได้สะดวกและรวดเร็ว