KEY
POINTS
วันนี้ (4 พฤศจิกายน 2568) นางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานมีมติเห็นชอบการต่ออายุให้ประเทศไทยเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ โมโตจีพี (MotoGP) ประจำปี 2570-2574 (5 ปี) โดยมีกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขัน 3,997.86 ล้านบาท
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับงบประมาณในการจัดการแข่งขัน โมโตจีพี รวม 5 ปี มีประมาณการรายรับอยู่ที่ 700 ล้านบาท ในขณะที่ประมาณการค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอยู่ที่ 4,697.86 ล้านบาท โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อสมทบค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการดังกล่าว จำนวน 3,997.86 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าลิขสิทธิ์ (หลังจากหักรายรับ) ค่าภาษีที่เกี่ยวข้องและค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขัน
กระทรวงการท่องเที่ยวฯ แจ้งว่า ในส่วนของค่าลิขสิทธิ์และค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันที่นอกเหนือจากประมาณการจะใช้จ่ายจากเงินรายได้การบริหารสิทธิประโยชน์การแข่งขัน (ภาคเอกชน) และขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ซึ่งหากไม่เพียงพอจะจัดทำคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสม ทั้งนี้ หากมีงบประมาณเหลือจ่ายจากการดำเนินงานให้นำส่งคืนเงินตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในที่ประชุมครม.ได้หารือค่าใช้จ่ายของการจัดงานครั้งนี้ โดยที่ประชุมต้องการให้หาแหล่งเงินอื่น ๆ นอกเหนือจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ต้องตั้งให้ทุกปี โดยอาจหาแหล่งเงินทุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ หรือเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนเพิ่มเติมด้วย ซึ่งจากนี้ไปกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้รับไปดำเนินการต่อ
ทั้งนี้ สำนักงบประมาณ เสนอความเห็นว่า กรอบวงเงินงบประมาณค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขัน โมโตจีพี 5 ปี จำนวน 3,997.86 ล้านบาท ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นสูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับการจัดการแข่งขันครั้งที่ผ่านมา
ดังนั้น เพื่อให้โครงการบรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นสมควรที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาด้วยความรอบคอบ รัดกุม โปร่งใส บูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
โดยคำนึงถึงความประหยัดและความคุ้มค่าของการใช้จ่ายงบประมาณ ดำเนินการโดยพิจารณาถึงผลสัมฤทธิ์ ประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับด้วย
ทั้งนี้ เมื่อประเทศไทยได้รับพิจารณาให้เป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันฯ แล้ว ขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ต้องใช้ในการเป็นเจ้าภาพการจัดการจัดการแข่งชัน โดยให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน นำรายได้จากการบริหารสิทธิประโยชน์ในฐานะเจ้าภาพการจัดการแข่งขัน การสนับสนุนจากภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจมาสมทบการดำเนินงาน
รวมทั้งการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และการใช้จ่ายจากเงินสะสมการกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อให้ภาระต่องบประมาณอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดภาระด้านงบประมาณและการคลังในอนาคต
นอกจากนี้ควรพิจารณาความพร้อมในด้านต่าง ๆ วิธีการสร้างรายได้และมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากการลงทุนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งชัน และแนวทางการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ และพิจารณาถึงการจัดทำแผนบริหารความเสียงในกรณีที่เงินรายได้จากการบริหารสิทธิประโยชน์การแข่งขันและเงินสนับสนุนจากภาคเอกชนไม่เป็นไปตามเป้าหมาย รวมทั้งผลกระทบในทางลบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการจัดการแข่งขัน โมโตจีพี ตลอด 5ปี เสนอครม.เห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับการจัดการแข่งขัน โมโตจีพี กำหนดช่วงเวลาการจัดการแข่งขัน ในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี (ปีละ 1 ครั้ง ครั้งละ 3 วัน) ประเทศไทยจะเป็นสนามแรกอย่างเป็นทางการในปฏิทินการแข่งขันตลอดทั้ง 5 ปี โดยสถานที่จัดการแข่งขันคือสนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสนามแข่งขันที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากสหพันธ์จักรยานยนต์ระหว่างประเทศ (FIM) คาดว่าจะมีจำนวนทั้งสิ้นไม่น้อยกว่า 1,050,000 คน
โดยตั้งแต่ปี 2561-2568 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลกรายการดังกล่าว สามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทยได้มากถึง 24,927 ล้านบาท และมีผู้ชมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้าร่วมกิจกรรมระหว่างการแข่งขันเฉลี่ยกว่า 206,240 คนต่อครั้ง