จับตา ครม.ตั้ง ‘อ้อนฟ้า’ หวนนั่งเลขาฯ ก.พ.ร. โยก ‘ดนุชา’ กลับสภาพัฒน์

03 พ.ย. 2568 | 23:01 น.

จับตา ครม.แต่งตั้ง ‘อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ’ เลขาธิการ สศช. หวนกลับไปนั่งเป็นเลขาธิการ สำนักงาน ก.พ.ร. พร้อมโยก ‘ดนุชา พิชยนันท์’ เลขาฯ สทนช. กลับเป็นเลขาฯ สภาพัฒน์

KEY

POINTS

  • จับตา ครม. มีวาระพิจารณาโยกย้าย น.ส. อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ จากตำแหน่งเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ กลับไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร.
  • มีการเสนอชื่อนายดนุชา พิชยนันท์ ให้ย้ายจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ
  • การโยกย้ายครั้งนี้เป็นการสลับตำแหน่งกลับ หลังจากทั้งสองเพิ่งได้รับการแต่งตั้งในตำแหน่งปัจจุบันเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568

วันนี้ (4 พฤศจิกายน 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจับตาวาระการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงของสำนักนายกรัฐมนตรี ที่จะเสนอเข้ามาในการประชุมครม.วันนี้ ทั้งตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)

ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า สำนักงาน ก.พ.ร. จะเสนอขอรับโอน นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการ สศช. กลับมาดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ สำนักงาน ก.พ.ร. ที่ว่างอยู่ และจะขอรับโอน นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ไปดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ สศช.

ก่อนหน้านี้ในช่วงสิ้นสุดปีงบประมาณ 2568 ที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ได้มีมติรับโอน นายดนุชา พิชยนันท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการ สศช. ให้มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ตามที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นเป็นผู้เสนอ

ต่อมาในการประชุมครม.เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2568 ครม.ก็ได้มีมติอนุมัติรับโอน นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขาธิการ ก.พ.ร. แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สศช. สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ตามที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้นเป็นผู้เสนอ

สำหรับ นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ  และนายดนุชา พิชยนันท์ นั้น จากการตรวจสอบประวัติการทำงานพบว่า ทั้งสองคนมีอายุราชการเหลือเท่ากันคือ 5 ปี โดยจะครบกำหนดการเกษียณอายุราชการในปี 2573 และการแต่งตั้งให้มาดำรงตำแหน่ง เลขาธิการ ซึ่งเป็นตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญระดับสูงครั้งนี้ จะทำให้การนับวาระการดำรงตำแหน่งเริ่มต้นใหม่ คือ 4 ปี และสามารถต่ออายุได้วาระละ 1 ปีได้ถึงอีก 2 ครั้ง