KEY
POINTS
นาย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้ารถขนส่งสาธารณะที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง พลัส นั้น
ทั้งนี้ในช่วง 7 วัน ที่มีการลงทะเบียนผ่านโครงการคนละครึ่งพลัส พบว่า ตัวเลขผู้ลงทะเบียน 1,619 ราย ซึ่งผ่านการตรวจสอบ 1,366 รายถือเป็นสัญญาณที่ดี แสดงให้เห็นถึงความสนใจของผู้ให้บริการรถสาธารณะในการเข้าร่วมโครงการ คนละครึ่ง พลัส
อย่างไรก็ดีเมื่อเทียบกับจำนวนรถสาธารณะที่มีสิทธิ์เข้าร่วมนั้น ยังอยู่ในสัดส่วนไม่มากนัก จึงอยากเชิญชวนให้ผู้ขับรถสาธารณะทุกประเภทเข้ามาร่วมโครงการ เพื่อช่วยกันลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับผู้ประกอบการ
สำหรับผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะที่ลงทะเบียนกับ กรมการขนส่งทางบก ว่า ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนทั้งหมด 1,619 ราย คิดเป็น 84% โดยมีผู้ผ่านการตรวจสอบแล้วรวม 1,366 ราย แบ่งเป็น
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการรายเดิมที่เคยเข้าร่วมโครงการเมื่อปี 2565 ได้ผ่านการตรวจสอบและทบทวนสิทธิ์แล้ว 1,480 ราย
นอกจากนี้ยังมีรถขนส่งสาธารณะที่ลงทะเบียนไม่ผ่านคุณสมบัติ 253 ราย แบ่งเป็น
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า โครงการคนละครึ่ง พลัส เป็นนโยบายที่รัฐบาลตั้งใจให้เกิดประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย คือ ประชาชนที่ได้ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางลงครึ่งหนึ่ง ทำให้เดินทางได้มากขึ้น
ทั้งนี้ยังส่งผลให้ผู้ขับรถสาธารณะมีรายได้เพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องปรับค่าโดยสาร เพราะรัฐเข้ามาช่วยสมทบอีก 50%
โดยใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชันถุงเงินกับร้านค้าขนส่ง ที่ลงทะเบียนและได้รับสิทธิร่วมโครงการ ซึ่งเป็นระบบที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่มีผลกระทบต่อรายได้ของผู้ให้บริการแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามโครงการ คนละครึ่ง พลัส เปิดให้ผู้ประกอบการรถสาธารณะทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถตุ๊กตุ๊ก รถสองแถว หรือรถตู้โดยสาร เพื่อเข้าร่วมในฐานะ “ร้านค้าขนส่ง” ให้ประชาชนสามารถใช้สิทธิร่วมจ่ายค่าเดินทางได้สะดวก
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถ ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2568 จนถึง วันที่ 19 ธันวาคม 2568
โดยผ่านจุดรับลงทะเบียนที่ บูธ กระทรวงมหาดไทยร่วมกับธนาคารกรุงไทย หรือธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ซึ่งเป็นช่องทางหลักสำหรับผู้ให้บริการและผู้ประกอบการสาธารณะ