กรมสรรพสามิต ขยายเวลาลดภาษีไนต์คลับ เหลือ 5% ออกไปอีก 1 ปี

22 ต.ค. 2568 | 05:25 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ต.ค. 2568 | 05:29 น.

กรมสรรพสามิต ขานรับมติ ครม. ขยายเวลาลดภาษีสถานบริการ ‘ไนต์คลับ’ เหลือ 5% ออกไปอีก 1 ปี หนุนธุรกิจบันเทิง-ท่องเที่ยวฟื้นตัว

นายพรชัย ฐีระเวช อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ควบคู่กับการยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการในระยะยาว โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล เพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างทั่วถึง

ทั้งนี้ สอดคล้องกับนโยบาย “Quick Big Win” ของรัฐบาล ซึ่งมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งมาตรการที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกรมสรรพสามิต คือ มาตรการขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ    

โดยขยายเวลาการปรับลดอัตราภาษี สำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ ประเภทที่ 17.01 เช่น ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ บาร์ และค็อกเทลเลานจ์ ตามมูลค่าจากร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 5 ออกไปอีก 1 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569

 “มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดภาระต้นทุนของสถานบริการ ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และปรับลดราคาค่าบริการลง เพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวให้ใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว การจ้างงาน และสร้างการหมุนเวียนรายได้ภายในประเทศ อีกทั้งยังเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีเพิ่มขึ้น”

ทั้งนี้ ได้สั่งการ ให้สำนักงานสรรพสามิตภาค สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ และสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สาขาทั่วประเทศ       มีความพร้อมในการให้คำแนะนำและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษี และชำระภาษีด้วยความถูกต้อง เพื่อที่จะได้กระตุ้นเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ ให้สอดคล้องตามมติคณะรัฐมนตรีและสอดรับตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

“กรมสรรพสามิตมุ่งมั่นดำเนินนโยบายภาษี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการช่วยลดภาระผู้ประกอบการและส่งเสริมให้ธุรกิจเดินหน้าได้อย่างมั่นคง ควบคู่ไปกับการบูรณาการความร่วมมือกับกรมการปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้คำแนะนำและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมาจดทะเบียนสถานประกอบการเพื่อขยายฐานภาษีสรรพสามิต”