แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง รายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 21 ต.ค.นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอแพ็คเกจกระตุ้นการท่องเที่ยว ช่วงปลายปี 2568 หลังจากได้ผ่านความเห็นชอบจากครม.เศรษฐกิจแล้ว ทั้งนี้ ประกอบด้วย มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยให้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 2 หมื่นบาท การเร่งภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจเร่งจัดงานสัมมนา ช่วงต้นปีงบประมาณ 2569 สนับสนุนให้เม็ดเงินกว่า 6,000 ล้านบาทลงสู่ระบบเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ยังได้เตรียมมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการรีโนเวทโรงแรม โดยให้นำมาหักลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่า และยังได้เตรียมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) วงเงิน 1 แสนล้านบาท จากธนาคารออมสิน เพื่อช่วยให้ธุรกิจท่องเที่ยวเข้าถึงแหล่งทุนต้นทุนต่ำ เป็นต้น
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า แพ็คเกจกระตุ้นการท่องเที่ยวนั้น จะเสนอครม.อนุมัติต่อไปในสัปดาห์หน้า ซึ่งมีรายละเอียด ได้แก่ มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งให้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด 2 หมื่นบาท โดยท่องเที่ยวเมืองหลัก ได้รับสิทธิการลดหย่อน 1 เท่า ขณะที่การท่องเที่ยวเมืองรอง ได้รับสิทธิลดหย่อนสูงสุง 1.5 เท่า สามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 29 ต.ค.-15 ธ.ค.68
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้อนุมัติการกระตุ้นท่องเที่ยวเพิ่มเติม โดยกำหนดให้ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เลื่อนจัดงานสัมนา อบรมจากเดิมเน้นช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ เปลี่ยนเป็นเข้าไปใช้งบประมาณดังกล่าวช่วงต้น (Front load) หรือโดยต้องเบิกจ่ายให้ได้ 60% ภายในม.ค.69 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างเร่งด่วน
“งบประมาณสำหรับราชการมีประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท และรัฐวิสาหกิจประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีงบประมาณสำหรับอบรมสัมมนาอยู่แล้ว ซึ่งตัวเลขการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว 8 เดือนที่ผ่านมาติดลบประมาณ 8% รัฐบาลจึงต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจให้หน่วยงานภาครัฐเร่งการเบิกจ่าย”
นายเอกนิติ กล่าวว่า จากนโยบาย Quick Big Win กระตุ้นสั้น แต่ได้ผลในระยะยาวนั้น ที่ประชุมได้อนุมัติมาตรการสนับสนุนโรงแรมปรับปรุง รีโนเวทธุรกิจ โดยเฉพาะในเมืองรอง หากมีการปรับปรุงธุรกิจ จะสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ทั้งนี้ ยังขยายขอบเขตไปถึงการลงทุนพัฒนาโรงแรม อาทิ การติดโซลาเซลล์ เพื่อความยั่งยืน และลดค่าใช้จ่ายระยะยาว ซึ่งระยะเวลาโครงการนานถึงเดือนมี.ค.69
ขณะเดียวกัน ในส่วนของกระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพสามิต ยังได้ลดภาษีสถานบริการ จาก 10% เหลือ 5% นอกจากนี้ ยังมีการหารือกับกระทรวงท่องเที่ยว ให้ไปพิจารณาแนวทางเพื่อให้ผู้ประกอบการที่ยังทำธุรกิจไม่ถูกต้อง และต้องเปิดแบบหลบซ่อน ได้เข้าสู่ระบบเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีด้วย โดยจะมีการประสานกระทรวงมหาดไทย และกรมการปกครอง เข้าไปดูแลด้วย
นายเอกนิติ ยังกล่าวอีกว่า ตามกรอบนโยบาย Quick Big Win นั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ยังได้ให้กรอบการทำงาน โดยเน้นให้กระทรวงเศรษฐกิจกำหนดนโยบายที่สามารถทำได้รวดเร็ว (Quick) มีผลกระทบใหญ่เพียงพอ (Big) และประชาชนได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงและกระจายตัว (Win) โดยต้องคิดถึงผลในระยะยาวด้วย