'สุขกาย สบายกระเป๋า' เช็ครายชื่อ รพ.เอกชน ร้านยา ทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการ

16 ต.ค. 2568 | 08:45 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ต.ค. 2568 | 09:06 น.

กรมการค้าภายใน เผยความคืบหน้าโครงการ 'สุขกาย สบายกระเป๋า' โรงพยาบาลเอกชนเข้าร่วมแล้ว 327 แห่ง และร้านยากว่า 2,382 แห่ง ทั่วประเทศ เตรียมลงนาม MOU ร่วม อย.–สบส.–สมาคมโรงพยาบาลเอกชน 28 ต.ค.นี้

KEY

POINTS

  • โครงการ "สุขกาย สบายกระเป๋า" มีโรงพยาบาลเอกชน 327 แห่ง และร้านยา 2,382 แห่งทั่วประเทศเข้าร่วมแล้ว
  • มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบ เปรียบเทียบราคายา และเลือกซื้อยาได้เองในราคาที่เป็นธรรมเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
  • กรมการค้าภายในเตรียมลงนามความร่วมมือ (MOU) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ประชาชนค้นหาร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้สะดวกขึ้น

นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยความคืบหน้าโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” ว่าขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศแล้วกว่า 327 แห่ง และตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดลงทะเบียนร้านยาเพื่อเข้าร่วมโครงการ “สุขกาย สบายกระเป๋า” เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 68 มีร้านยาที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วทั้งสิ้น 2,382 ร้าน ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ ในวันที่ 28 ตุลาคม 2568 กรมการค้าภายในจะมีการลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) กับ 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เพื่อขับเคลื่อนระบบ “เปิดเผยราคายาและเปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกซื้อยาได้เอง” ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถตรวจสอบ เปรียบเทียบราคาได้อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำทางการเข้าถึงยาและค่ารักษาพยาบาล

ขณะเดียวกันได้เตรียมพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ “ร้านยาสุขกาย สบายกระเป๋า” เพื่อให้ประชาชนสามารถค้นหาร้านยาในพื้นที่ใกล้เคียงที่เข้าร่วมโครงการได้สะดวกและรวดเร็ว

สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านบริการทางการแพทย์ของประเทศ มีโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำจำนวนมากให้ความร่วมมือเข้าร่วมโครงการแล้ว รวมกว่า 100 แห่ง อาทิ

  • โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
  • โรงพยาบาลธนบุรี
  • โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น
  • โรงพยาบาลพญาไท 2
  • โรงพยาบาลวิชัยเวช
  • โรงพยาบาลกรุงเทพ
  • โรงพยาบาลรามคำแหง
  • โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลเอกชนในต่างจังหวัดอีกกว่า 200 แห่งทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งทุกโรงพยาบาลต่างมีเจตนารมณ์ร่วมสนับสนุนนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ในการให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาคุณภาพในราคายุติธรรมมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ในส่วนของร้านยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสภาเภสัชกรรม ได้เตรียมความพร้อมร้านยาสำหรับรองรับการใช้บริการของประชาชน โดยประชาชนสามารถค้นหาร้านยาที่เข้าร่วมได้จากแอฟพลิเคชันได้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการสร้างความสะดวกและมีโอกาสเลือกซื้อยาในร้านยาใกล้บ้านได้ ซึ่งขณะนี้ร้านยากว่า 2,382 แห่งที่มีการลงทะเบียนเข้ามาในระบบเพียง 2 วันแรก และคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก จนครอบคลุมทุกพื้นที่บริการ

สำหรับแอปพลิเคชั่นร้านขายยาอื่นๆ เข้าร่วมเบื้องต้น ยังมีผู้ให้บริการจำหน่ายยาที่แสดงความจำนงค์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (Applications) เข้าร่วมแล้ว 12 แบรนด์ ได้แก่ 1. Pharmax 2. Icare 3. Super Drug 4.Fascino 5. Save Drug 6. Pure Pharmacy 7. eXta Plus 8. Tops Care 9. Boots 10. ร้านยาโลตัส 11. ร้านยากรุงเทพ 12. GPO

นอกจากนี้ มีร้านขายยา 8 แอปพลิเคชั่น ได้แก่ 1. TELEHEALTH 2. ร้านยากรุงเทพ 3. ยาพร้อม 4. All Pharmacy 5. PharmCare 6. BeDee 7. AskMacy by Fascino 8. BIGYA