ร้านค้าคนละครึ่ง www.คนละครึ่งพลัส.com ลงทะเบียนวันไหน

13 ต.ค. 2568 | 08:10 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ต.ค. 2568 | 11:30 น.

ร้านค้าคนละครึ่ง www.คนละครึ่งพลัส.com ลงทะเบียนวันไหน อัปเดตเงื่อนไขคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดที่นี่

KEY

POINTS

 

 

ใกล้งวดเข้ามาทุกที่สำหรับโครงการคนละครึ่งพลัส www.คนละครึ่งพลัส.com ซึ่ง ครม.ได้มีมติเห็นชอบอนุมัติโครงการคนละครึ่งพลัส เมื่อวันอังคารที่ 7 ตุลาคม 2568 ภายใต้กรอบวงเงิน ไม่เกิน 44,000 ล้านบาท

งบประมาณวงเงิน ไม่เกิน 44,000 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • งบกลางเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ 25,000 ล้านบาท
  • งบกลางเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น 19,000 ล้านบาท

โครงการครอบคลุมประชาชน ไม่เกิน 20 ล้านคน โดยแบ่งเป็น

  • ผู้ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90 / 91 / 95 ของปีภาษี 2567 จำนวน 11 ล้านคน
  • ประชาชนทั่วไปและกลุ่มที่อยู่นอกระบบภาษี จำนวน 9 ล้านคน

 

ร้านค้าคนละครึ่งลงทะเบียนวันไหน

สำหรับคนละครึ่งพลัส 2568 ตามกำหนดการลงทะเบียน กระทรวงการคลัง ได้กำหนดให้ ร้านค้ารายเก่า และ รายใหม่ ลงทะเบียนร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสเป็นกลุ่มแรก ดังนี้

ร้านค้ารายเก่า

  • ร้านค้าที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 และ ผ่านเกณฑ์ : ไม่ต้องลงทะเบียน (แค่เพียงอัปเดต แอปฯถุงเงิน และ กดยอมรับเงื่อนไขเท่านั้น)
  • กดรับสิทธิบนแอปฯถุงเงิน วันที่ 15 ตุลาคม  – 19 ธันวาคม 2568 

ร้านค้าใหม่

  • สมัครเข้าร่วมโครงการ ณ จุดตั้งบูธกระทรวงมหาดไทยร่วมกับธนาคารกรุงไทย หรือ ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. - 19 ธ.ค. 68

คุณสมบัติร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ

1. เป็นผู้ประกอบการร้านค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการร้านค้าฯ) ดังนี้

  • ผู้ประกอบการที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ
  • ร้านค้าธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (ร้านค้าธงฟ้าฯ) ที่ไม่ใช่นิติบุคคล เว้นแต่เป็นร้านค้าธงฟ้าฯ ของสหกรณ์ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม หรือ
  • ร้านค้าของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมืองตามพระราชบัญญัติกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พ.ศ. 2547 (พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ) หรือ
  • ร้านค้าของวิสาหกิจชุมชนตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ)

ทั้งนี้ ต้องไม่เป็นร้านค้าที่มีลักษณะเป็นร้านสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ และต้องมีการประกอบการที่สามารถตรวจสอบได้

2. เป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม ที่มีสัญชาติไทย (ผู้ประกอบการบริการฯ) ดังนี้

  • ผู้ประกอบการบริการที่ไม่ใช่นิติบุคคล หรือ
  • ผู้ประกอบการบริการของกองทุนหมู่บ้านหรือกองทุนชุมชนเมือง ตาม พ.ร.บ. กองทุนหมู่บ้านฯ หรือ
  • ผู้ประกอบการบริการของวิสาหกิจชุมชนตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนฯ

ทั้งนี้ ต้องมีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งและตรวจสอบได้ และกรณีเป็นผู้ประกอบการบริการนวด สปา จะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย

เงื่อนไขลงทะเบียนคนละครึ่งพลัส 2568

3. เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะ ที่มีสัญชาติไทยและไม่ใช่นิติบุคคล (ผู้ประกอบการด้านขนส่งสาธารณะฯ) ดังนี้

  • ผู้ประกอบการประเภทรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน (TAXI - METER) รถตู้โดยสารประจำทางที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถสองแถวรับจ้าง และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ต้องมีใบขับขี่รถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย
  • ผู้ประกอบการรถรับจ้างขนส่งผู้โดยสารที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น สามล้อถีบ เป็นต้น

4. เป็นผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะ ได้แก่

  • รถไฟฟ้าในเขตเมือง รถไฟ รถโดยสารประจำทางสาธารณะ และเรือโดยสารสาธารณะ (ผู้ประกอบการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะฯ)

5. เป็นนิติบุคคลขนาดเล็ก เฉพาะที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 68 และงบการเงินตามมาตรา 69 แห่งประมวลรัษฎากร (ภ.ง.ด. 50) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 2567

  • ซึ่งขายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป หรือให้บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และให้บริการขนส่งสาธารณะ โดยมีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท ตามฐานข้อมูลของกรมสรรพากร ณ วันที่ 30 กันยายน 2568

ทั้งนี้ ผู้ให้บริการนวด สปา หรือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะจะต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย

6. ร้านค้าจะต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่

(1) โครงการคนละครึ่ง (2) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 (3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (4) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 และ (5) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5

7. ประเภทสินค้าและบริการ อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำเล็บ ทำผม และบริการขนส่งสาธารณะ

โดยไม่รวมถึงสินค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ บัตรกำนัล บัตรเงินสด และบริการรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า

ทั้งนี้การกำหนดเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงรายการสินค้าและบริการของโครงการฯให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้กำหนด.

ที่มา: