เตือน 'เศรษฐกิจไทย' เสี่ยงสูง สมาคมธนาคารไทย ดันข้อเสนอใหญ่นายกฯ

23 ก.ย. 2568 | 03:57 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ย. 2568 | 04:42 น.

'สมาคมธนาคารไทย' เตือนเศรษฐไทยเสี่ยงสูงหลายด้าน ทั้งโครงสร้างเปราะบาง ความสามารถแข่งขันลดลง พร้อมดันข้อเสนอใหญ่นายกฯอนุทิน

KEY

POINTS

  • สมาคมธนาคารไทยเตือนว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงสูงรอบด้าน (Perfect Storm) จากปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ความสามารถในการแข่งขันลดลง และเศรษฐกิจนอกระบบมีขนาดใหญ่
  • เสนอแพลตฟอร์ม "Reinvent Thailand" เพื่อเป็นเวทีความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบ โดยใช้ข้อมูลเป็นตัวนำและมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน
  • ผลักดันข้อเสนอเร่งด่วน 4 ด้านหลัก ได้แก่ การดึงเศรษฐกิจนอกระบบเข้าระบบ, การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน, การเพิ่มรายได้ภาคประชาชน และการกระตุ้นการลงทุนในประเทศ

นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงการหารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทยวานนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 58 ปี ที่มีนายกรัฐมนตรีมาเยือนสมาคมธนาคารไทย โดยระบุว่า ส่วนใหญ่เป็นการมารับฟังข้อมูลปัญหา และคำแนะนำต่าง ๆ จากสมาคมธนาคารไทย ซึ่งถือว่าเป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจอีกแห่งหนึ่ง ที่สามารถสะท้อนสภาพความเป็นจริงของเศรษฐกิจไทย

Perfect Storm : ภาพเศรษฐกิจที่สมาคมธนาคารฉาย

ในสายตาของสมาคมธนาคารไทยกำลังเจอปัญหาหลายด้านพุ่งชนกันพอดี

  • โครงสร้างเดิมที่เปราะบาง เศรษฐกิจนอกระบบยังใหญ่โตถึง 48% ของ GDP เกินกว่าหลายประเทศในเอเชีย ทำให้การจัดเก็บภาษีไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ความเหลื่อมล้ำสูง และค่าเงินบาทถูกโยกด้วยธุรกรรมทอง-คริปโต หนี้ครัวเรือนก็สูงลิ่วกว่า 100% ต่อ GDP รวมทั้งในและนอกระบบ
  • ความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง ไทยเสมือน "เครื่องยนต์ติดขัด" คาด GDP โตเฉลี่ยแค่ 2.1% ใน 5 ปีข้างหน้า ต่ำสุดในอาเซียน ขณะที่ FDI ไหลเข้าน้อย เงินทุนไทยกลับไหลออกไปลงทุนต่างประเทศแทน
  • ภาครัฐที่ท้าทายไม่แพ้กัน กฎหมายและกฎระเบียบมากกว่าแสนฉบับกำลังกลายเป็นภาระ ธุรกิจต้องแบกต้นทุนแฝงสูง ข้อมูลหน่วยงานรัฐไม่เชื่อมกันจนถึงขั้น "หาสาเหตุค่าเงินบาทแข็งค่าไม่ได้" ขณะที่หนี้สาธารณะพุ่งขึ้นต่อเนื่อง

ส.ธนาคารไทยเตือนเศรษฐกิจไทยเสี่ยงสูง ดันข้อเสนอใหญ่นายกฯ

Reinvent Thailand : ข้อเสนอใหญ่จากสมาคมธนาคารไทย

  • สมาคมฯ ชูแพลตฟอร์ม "Reinvent Thailand" เป็นเวทีร่วมมือระหว่างรัฐ-เอกชน-การเงิน แนวคิดคือ "ไม่ใช่คุยแล้วจบ" แต่ต้องมีข้อมูลนำทาง (Data-driven), เจ้าภาพชัดเจน, KPI วัดผล, และแรงจูงใจที่ถูกต้อง

สามแนวทางหลักที่สมาคมธนาคารไทยแนะนำ

ภาคประชาชน

  • จัดตั้ง JV-AMC ระหว่างธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อซื้อหนี้เสียรายย่อยมาบริหารใหม่
  • กำหนดให้ผู้ให้กู้ทุกราย ต้องรายงานข้อมูลเครดิตเข้า NCB แล้วสร้าง National Credit Score เพื่อให้ทุกคนถูกประเมินความเสี่ยงด้วยมาตรฐานเดียว

ภาคธุรกิจ

  • ผลักดันโครงการ "Greenly Made by Thais" (GMBT) เพื่อให้สินค้าส่งออกไทยมีแต้มต่อด้าน ESG และการใช้วัตถุดิบในประเทศ
  • มาตรการ "พี่ช่วยน้อง" ให้บริษัทใหญ่ช่วย SMEs ในห่วงโซ่อุปทาน
  • ใช้เครื่องมือใหม่ เช่น Digital Lending Platform และ PromptBiz เพื่อลดต้นทุนธุรกิจ

ภาครัฐ

  • ใช้งบจัดซื้อจัดจ้างปีละ 1.7 ล้านล้านบาท เป็นคันโยกหนุน SMEs และสินค้ากลุ่ม GMBT
  • ปรับโครงสร้างกฎระเบียบ ลดขั้นตอน และความซ้ำซ้อน

นโยบายเร่งด่วน 4+4

สมาคมสรุปเป็น 4 ประเด็นหลัก+4 มาตรการเสริม

  • ดึงเศรษฐกิจนอกระบบ เข้าสู่ระบบ
  • แก้หนี้ครัวเรือนด้วย AMC และ National Credit Score
  • เพิ่มรายได้ครัวเรือน ผ่านการอัพสกิลและค่าตอบแทน
  • กระตุ้นการลงทุนในประเทศ ดึง FDI และหนุน local content

ส่วนมาตรการเสริม: คือ การใช้ PromptBiz, ปรับ บสย., เครื่องมือช่วย SMEs

นายวรภัค กล่าวอีกว่า ข้อเสนอของสมาคมธนาคารไทยครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงรายงานเชิงเทคนิค แต่คือสัญญาณเตือน ว่าเศรษฐกิจไทยกำลังถูกล้อมด้วยความเสี่ยงรอบด้าน หากรัฐบาลกล้าลงมือจริงตามแนวทางเหล่านี้ ประเทศไทยยังมีโอกาสสร้างรอบใหม่ของการเติบโต และก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลางได้

"ข้อแนะนำบางอย่าง ท่านนายกฯ ก็มีแนวทางสั่งการให้ท่านรองนายกฯ เศรษฐกิจได้เตรียมนโยบายไว้อยู่แล้ว เช่น การแก้หนี้ภาคครัวเรือน การเสริมสภาพคล่องธุรกิจเอสเอ็มอี การกระตุ้นเศรษฐกิจแบบทำสั้น แต่ได้ยาว การอำนวยความสะดวกและดึงดูดการลงทุนระยะยาว ในอุตสาหกรรมเป้าหมายจากต่างประเทศ เป็นต้น"