วันนี้ (21 กันยายน 2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมเวทีปราศรัยช่วย น.ส.จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 2 ตอนหนึ่งถึงการผลักดัน โครงการ “คนละครึ่ง” เป็นนโยบายของรัฐบาล ว่า โครงการคนละครึ่ง จะกลับมาภายใน 1 เดือน หลังจากได้เข้าไปทำงานเป็นรัฐบาล
นายอนุทิน กล่าวว่า โครงการคนละครึ่ง ถือเป็นนโยบายที่จะช่วยทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ เพราะปัจจุบันรัฐบาลที่มีเวลาไม่ยาวนานนัก จึงจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าปัญหา รวมทั้งปัญหาบริเวณแดนไทย-กัมพูชา เช่นเดียวกับปัญหาเรื่องของผลทางการเกษตร ปัญหายาเสพติด โดยจะเร่งปราบตามยาเสพติดอย่างเต็มที่
"เรื่องของเศรษฐกิจ คนละครึ่ง ใครเสียภาษีก็ได้เพิ่มมากหน่อยเป็น 60:40 แต่คนที่ไม่อยู่ในระบบภาษีก็ยังได้คนละครึ่งเหมือนเดิม พี่น้องจะได้มีสิ่งที่ไปทำให้เศรษฐกิจของเรากระตุ้น ช่วยเหลือกันเอง ดูแลกันเอง เศรษฐกิจมันก็จะเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นตรงนี้เป็นสิ่งที่ให้ความมั่นใจกับพ่อแม่พี่น้องได้ว่า เราจะเข้าไปภูมิใจไทยพูดแล้วทำอยู่แล้ว" นายอนุทิน ระบุ
ส่วนประเด็นการเปิดด่านชายแดนไทย–กัมพูชาและการสร้างรั้วตามแนวชายแดนว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนกองทัพอย่างเต็มที่ในการดูแลความมั่นคง โดยให้อำนาจทหารตัดสินใจอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันจะใช้การทูตและการเจรจาระดับรัฐต่อรัฐเพื่อให้กัมพูชายอมรับเงื่อนไขของไทย
“เรื่องนี้เราต้องยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก ต้องอยู่บนเงื่อนไขของไทยเท่านั้น เราไม่ยอมรับเงื่อนไขใด ๆ จนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะยอมรับข้อกำหนดของเรา ที่ผ่านมาแม้จะมีการคาดคะเนว่าผู้นำต่างประเทศโทรมาล็อบบี้ แต่ยืนยันว่าไม่มีใครมาล็อบบี้ได้ ผมทำเพื่อประเทศไทยเท่านั้น” นายอนุทิน กล่าว
สำหรับสถานการณ์ที่ยังมีอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินวนอยู่รอบภูมะเขือ นายกรัฐมนตรีระบุว่า เป็นเรื่องของทหารที่จะตัดสินใจ ในการนำแผ่นดินทุกตารางนิ้วที่ถูกบุกรุกกลับมาเป็นของคนไทย รัฐบาลสนับสนุนเต็มที่
ส่วนในพื้นที่หนองหญ้าแก้วและหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ซึ่งยังมีเหตุก่อกวนและใช้โล่มนุษย์จากฝั่งกัมพูชา นายอนุทินย้ำว่า ก่อนการเจรจาใด ๆ สิ่งเหล่านี้ต้องถูกถอนออกไปทั้งหมด จะไม่มีการพูดคุยในขณะที่อีกฝ่ายยังคงกดดันด้วยอาวุธหรือโล่มนุษย์ ด่านชายแดนจะยังคงปิดต่อไป และรัฐบาลอาจพิจารณาเพิ่มมาตรการควบคุมหากจำเป็น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จุดยืนของรัฐบาลชัดเจน คือ สนับสนุนกองทัพ ใช้การทูตคู่ขนาน และยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก โดยไม่ยอมให้เงื่อนไขใด ๆ มาลดทอนสิทธิ์อธิปไตยของไทย