เปิดเบื้องหลังทีมว่าที่ รมว.เศรษฐกิจอนุทิน1 ถกส.อ.ท. นอกรอบ

16 ก.ย. 2568 | 09:10 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.ย. 2568 | 09:10 น.

ทีมว่าที่ รมว.เศรษฐกิจอนุทิน1 นัดหารือส.อ.ท. นอกรอบ หลังได้รับฟังข้อเสนอแนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจ 5 ข้อหลัก

KEY

POINTS

  • ทีมว่าที่รัฐมนตรีเศรษฐกิจของรัฐบาลอนุทิน นำโดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ได้นัดหารือนอกรอบกับผู้บริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
  • การหารือมุ่งเน้นลงรายละเอียดใน 5 ข้อเสนอเร่งด่วนของ ส.อ.ท. ที่ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่เห็นตรงกัน เช่น การช่วยเหลือสภาพคล่อง SMEs และการปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้า
  • ทีมเศรษฐกิจต้องการเตรียมแผนงานให้พร้อมสำหรับลงมือทำทันทีหลังถวายสัตย์ฯ โดยมีเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดผลจริงภายในกรอบเวลา 4 เดือน

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตนและผู้บริหาร ส.อ.ท. ได้ดำเนินการหารือร่วมกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ว่าที่รองนายกรฐมนตรี และว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และทีมว่าที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจของนายอนุมทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนนตรี หลังจากที่ได้มีการหารือร่วมกับนายอนุทิน และทีมว่าที่ รมว.เศรษฐกิจที่ส.อ.ท.

โดยการหารือดังกล่าวเกิดจากนายเอกนิติ เล็งเห็นว่าสิ่งที่ ส.อ.ท. นำเสนอทั้ง 5 ข้อในการประชุมมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และสงครามการค้า 

,การส่งเสริมสภาพคล่องทางการเงินและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SMEs ,การปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าเพื่อลดต้นทุนผู้ประกอบการ ,การรับมือผลกระทบจากปัญหาการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา และมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ 

และการบริหารจัดการผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทค่อนข้างตรงกับที่รัฐบาลส่วนใหญ่มองเห็น จึงขอนัดหารือนอกรอบที่สโมสรราชพฤษ์ใในเวลา 18.00 น. ของเมื่อวานนี้ (15 ก.ย. 68) เพื่อเป็นการเตรียมงานทางด้านเศรษฐกิจต่อไป และปรึกษาหารือร่วมกันว่าควรจะดำเนินการอย่างไรบ้าง

“ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีทางด้านเศรษฐกิจ และว่าที่ รมว. คลังมีความเห็นว่าสิ่งที่ ส.อ.ท. นำเสนอค่อนข้างตรงกับที่รัฐบาลส่วนใหญ่เห็นด้วย โดยทุกหัวข้อที่นำเสนอเป็นแนวทางเร่งด่วนภายใน 4 เดือน เพียงแต่เวลาที่นำเสนอมีไม่มาก จึงต้องการลงรายเอียดให้เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นที่มาของการหารือดังกล่าว และมีการหารือกันยาวนานจนเลยเวลา 21.00 น.“

เปิดเบื้องหลังทีมว่าที่ รมว.เศรษฐกิจอนุทิน1 ถกส.อ.ท. นอกรอบ

ทั้งนี้ รัฐบาลภายใต้นายกฯอนุทินเน้นย้ำชัดเจนว่า ภายในกรอบระยะเวลา 4 เดือนของการทำงาน จะต้องสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดผลได้จริง โดยหลังจากช่วงยุบสภาฯก็จะยังพอมีเวลาให้ดำเนินการได้ต่ออีกเล็กน้อย ยกตัวอย่างเช่น เอสเอ็มอี (SMEs) ซึ่งประสบปัญหาเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงิน โดยเป็นมุมที่ ส.อ.ท. นำเสนอ และส่วนใหญ่รู้กันอยู่แล้วว่าเอสเอ็มอีมีปัญหา 

แต่ทีมเศรษฐกิจต้องการรู้ว่าโครงการอะไรที่จะสามารถเข้าถึงควยามต้องการของเอสเอ็มอีได้ลึก รวมถึงกว้างที่สุด และสมาชิกในแต่ละจังหวัดประสบปัญหาเรื่องใด จะมีกลไกลใดที่จะสามารถเข้าไปช่วยเหลือได้แบบเกิดผลภายใต้ระยะเวลาที่จำกัด และต้องการใช้เงินงบประมาอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และตรงจุด เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ประเด็นหนึ่งที่ส.อ.ท. มองเห็นว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยเอสเอ็มอีได้ก็คือ โครงการเมดอินไทยแลนด์ (Made in Thailand) ผ่านการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ โดยต้องการให้ทุกหน่วยงานของภาครัฐให้ความร่สวมมือมากกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากแต่ก่อนช่วงช่วงเริ่มต้นโครงการ ซึ่งกรมบัญชีกลางให้มีการจัดซื้อจัดจ้าง โดยในปีแรกมีผู้เข้ามาซื้อกว่า 1 แสนล้านบาท แต่พอปีถัดไปลดเหลือแค่ 3-4 หมื่นล้านบาท จึงต้องการให้ภาครัฐเห็นว่าแนวทางดังกล่าวเป็นเม็ดเงินที่สามารถช่วยเอสเอ็มอีได้เร็ว เพราะเป็นเงินของรัฐในการจัดซื้อจัดจ้าง 

เปิดเบื้องหลังทีมว่าที่ รมว.เศรษฐกิจอนุทิน1 ถกส.อ.ท. นอกรอบ

“ทีม รมว. ด้านเศรษฐกิจต้องการเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อที่หลังจากที่ได้มีการโปรดเกล้าฯ และถวายสัตย์เรียบร้อยแล้วจะได้สามารถทำงานได้ทันที เพราะเวลาตามกรอบมีไม่มาก”

จากการตรวจสอบของ “ฐานเศรษฐกิจ”สำหรับผู้ที่เข้าร่วมประชุมดังกล่าว ประกอบด้วย

  • นายเอนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และว่าที่ รมว คลัง
  • นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่ รมว. พาณิชย์
  • นายธนกร สังบุญคงชนะ ว่าที่รมว. อุตสาหกรรม
  • นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ว่าที่รมว. พลังงาน
  • นายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่ รมช. คลัง
  • นายกุลิศ สมบัติศิริ
  • นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท.
  • นายอภิชิต ประสพรัตน์  รองปประธาน ส.อ.ท.
  • นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธาน ส.อ.ท.
  • นายนาวา จันทนสุรคน  รองประธาน ส.อ.ท.
  • นายเวทิต  โชควัฒนา รองประธานส.อ.ท.