นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (8 กันยายน 2568) ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ในวาระที่ 2 และ 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้อำนาจกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) สามารถออกและจำหน่าย “สลาก กอช.” หรือ “หวยเกษียณ” เพื่อเพิ่มแรงจูงใจในการออมสำหรับประชาชนทุกกลุ่มอาชีพ
“ร่างกฎหมายฉบับนี้จะทำให้ กอช. มีเครื่องมือใหม่ในการสร้างแรงจูงใจให้คนไทยออมเงินได้ง่ายขึ้น ผ่านการออกและจำหน่ายสลาก กอช. ที่สร้างแรงจูงใจในการลุ้นรางวัลเข้ากับการออมในระยะยาว ภายใต้แนวคิด ศุกร์ได้ลุ้น - สุขได้ออม เงินทุกบาทที่ซื้อจะไม่หาย แต่จะกลายเป็นเงินออมของท่านทั้งหมด“
สำหรับการลงมติวาระที่ 3 หรือการลงมติทั้งฉบับ ที่ประชุมวุฒิสภามีผลการลงคะแนน จากจำนวน ผู้ลงมติ 118 เสียง ดังนี้ เห็นด้วย 108 เสียง ไม่เห็นด้วย 2 เสียง งดออกเสียง 8 เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง
ทั้งนี้ สะท้อนถึงการเห็นพ้องร่วมกันในแนวทางการขยายโอกาสการออมผ่านรูปแบบใหม่ ขั้นตอนถัดไป คือ นายกรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และกฎหมายจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 60 วัน นับแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เบื้องต้นคาดว่า “สลาก กอช.” จะสามารถจำหน่ายได้ไตรมาส 4 ของปีนี้
สำหรับ “สลาก กอช.” เป็น สลากขูดดิจิทัล จำหน่ายในราคา 50 บาทต่อฉบับ เปิดโอกาสให้ ผู้มีสัญชาติไทยทุกคนอายุ 15 ปีขึ้นไป สามารถซื้อได้สูงสุด 3,000 บาทต่อเดือน (60 ใบ) ออกรางวัลทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. โดยมีรายละเอียดรางวัล ดังนี้
นอกจากนี้ คนไทยทุกคน อายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถซื้อสลาก กอช. แต่ต้องออมไว้ 5 ปี หลังจากวันที่ซื้อครั้งแรก และสามารถซื้อได้ไม่จำกัดรอบ ทุกรอบต้องออมไว้ 5 ปี หากเสียชีวิต เงินออมที่ซื้อหวยเกษียณทั้งหมดจะตกสู่ทายาทตามกฎหมายหรือบุคคลที่ผู้ซื้อระบุไว้
ส่วนวิธีการซื้อ “สลาก กอช.” สามารถซื้อผ่านแอปพลิเคชัน “กอช.” รวมถึงเครือข่ายพันธมิตรที่จะเข้าร่วมโครงการในอนาคต รายละเอียดจะมีการประกาศแจ้งให้ทราบต่อไป การสมัครทำได้ง่าย เพียงใช้เลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และเลขหลังบัตรประชาชน สำหรับการรับเงินรางวัลนั้น ผู้ถูกรางวัลจำเป็นต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับธนาคารที่ใช้บริการ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการโอนเงินรางวัล
อย่างไรก็ตาม ท่านจะได้รับเงินต้น รวมผลตอบแทนในคราวเดียว 4 กรณี คือ 1. อายุครบ 60 ปี 2. เสียสัญชาติไทย 3.ทุพพลภาพ และ 4. อายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินคืนเมื่อครบกำหนด 5 ปี