วุฒิสภา ผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้าน

วันนี้ (2 กันยายน 2568) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สองเป็นประธานการประชุม หลังจาก ที่สว. ได้อภิปรายต่อเนื้อหาของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท แล้วเสร็จ หลังจากที่ที่ประชุมได้ใช้เวลาอภิปรายแสดงความเห็น รวม 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-2 ก.ย.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มติของที่ประชุม วุฒิสภา มีมติเห็นชอบ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2569 ด้วยมติ 151 เสียง ต่อไม่เห็นด้วย 1 เสียง และงดออกเสียง 27 เสียง

ด้าน นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง ในฐานะผู้แทนรัฐบาล กล่าวขอบคุณ สว. ที่พิจารณาเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2569 จะเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาต่าง ๆ ขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจยั่งยืน 

ส่วนข้อคิดเห็น ข้อเสนอและความห่วงใยที่เสนอแนะรัฐบาลรับไว้ด้วยความขอบคุณ ประกอบกับจะนำการพิจารณาไปปรับปรุงหน่วยรับงบประมาณเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากที่สุด โดยรัฐบาล จะใช้งบประมาณโปร่งใส ตรวจสอบได้ บรรลุผลสัมฤทธิ์ เพื่อขับเคลื่อนประเทศ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สำหรับโครงสร้างงบประมาณปี 2569 จำนวน 3,780,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 จำนวน 27,900 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.7% โดยวงเงินงบประมาณดังกล่าว คิดเป็นสัดส่วน 18.9% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)

โดยมีประมาณการรายได้สุทธิ 2,920,600 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14.6% ของ GDP และกำหนดวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 860,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 4.3% ของ GDP

สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 มีวงเงินงบประมาณทั้งสิ้นประมาณ 3,780,600 ล้านบาท จำแนกเป็น

• รายจ่ายประจำ จำนวนประมาณ 2,652,301,300,000 บาท หรือคิดเป็น 70.2%
• รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง จำนวนประมาณ 123,541,100,000 บาท หรือคิดเป็น 3.2%
• รายจ่ายลงทุน จำนวนประมาณ 864,077,200,000 บาท หรือคิดเป็น 22.9%
• รายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ จำนวนประมาณ 151,200,000,000 บาท หรือคิดเป็น 4%

โดยในจำนวนนี้เป็นรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ที่เป็นรายจ่ายลงทุน กรณีการกู้เพื่อการลงทุนของรัฐวิสาหกิจ จำนวนประมาณ 10,519,600,000 บาท