กำหนดวงเงินโอนรายวันของธปท. กระทบกับใคร? เริ่มวันไหน?

22 ส.ค. 2568 | 09:34 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ส.ค. 2568 | 09:34 น.

ธปท. กำหนดวงเงินโอนรายวันใหม่ เพื่อลดผลกระทบจากอาชญากรรมเทคโนโลยี มาตรการนี้มีผลกระทบต่อกลุ่มใดบ้าง? รวมถึงผู้สูงอายุและเด็กที่เป็นกลุ่มเสี่ยงจากมิจฉาชีพ

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ยกระดับมาตรการเชิงรุกป้องกัน อาชญากรรมเทคโนโลยี ด้วยการออกประกาศ “มาตรฐานและมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสำหรับสถาบันการเงิน ซึ่งมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่  8 สิงหาคม 2568

มาตรการดังกล่าวกำหนดกรอบบังคับใช้ที่ชัดเจน ครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ผู้ให้บริการทางการเงินรูปแบบอื่น (Non-bank) ตลอดจนผู้ให้บริการโทรคมนาคมและแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน

กรณีที่มีความเสียหายเกิดขึ้น โดยที่สถาบันการเงินไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ สถาบันการเงิน ต้องมีส่วนรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นตามสัดส่วนแห่งพฤติการณ์ของสถาบันการเงินลูกค้า ผู้ประกอบธุรกิจรวมทั้งบุคคลอื่นตามที่แต่ละบุคคลจะมีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดความเสียหายนั้น

กำหนดวงเงินโอนรายวันของธปท. กระทบกับใคร? เริ่มวันไหน?

ธปท.จึงกำหนดให้สถาบันการเงิน พิจารณากำหนดวงเงินให้เหมาะสม และสอดคล้องกับความต้องการใช้เงินของลูกค้า จากเดิมที่เคยโอนได้ 2 ล้านบาทต่อวัน

โดยแบ่งลูกค้าเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย

  • กลุ่ม S วงเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน
  • กลุ่ม M วงเงินไม่เกิน 200,000 บาทต่อวัน
  • กลุ่ม L วงเงินมากกว่า 200,000 บาทต่อวัน

“ธนาคารจะมีการประเมินลูกค้าจากพฤติกรรม การทำธุรกรรม และการรู้จักลูกค้า (KYC) ของแต่ละคน เพื่อกำหนดวงเงินให้เหมาะสม”

มาตรการดังกล่าว จะมีผลทันทีสำหรับลูกค้าใหม่ที่เพิ่งสมัคร Mobile Banking ส่วนลูกค้าปัจจุบันที่ใช้ Mobile Banking อยู่แล้ว ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 120 ล้านบัญชี  จะบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2568

กำหนดวงเงินโอนรายวันของธปท. กระทบกับใคร? เริ่มวันไหน?

เราจะอยู่กลุ่มไหน : วงเงินที่ได้จะสอดคล้องกับข้อมูลและพฤติกรรมการใช้เงินในอดีต

หากมีพฤติกรรมการใช้จ่ายต่อวันเกิน 50,000 บาทและสถาบันการเงินมีข้อมูลรู้จักลูกค้า หรืออาจพิจารณาปัจจัยอื่นประกอบเช่น เงินเดือน และสินทรัพย์ มีโอกาสได้รับวงเงิน 2 กลุ่มคือ

  • กลุ่ม L วงเงินมากกว่า 200,000 บาทต่อวัน
  • กลุ่ม M เงินเงินไม่เกิน 200,000 บาทต่อวัน

ลูกค้าที่เข้าข่าย S คือมีวงเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อวันคือ

  1. ลูกค้าเสี่ยงต้องสงสัยเป็นมิจฉาชีพ
  2. ลูกค้าใหม่ ที่สถาบันการเงินยังรู้จักน้อย
  3. ลูกค้าปัจจุบัน ตามข้อมูลและพฤติกรรมการใช้งานไม่เกิน 50,000 บาทต่อวันอยู่แล้ว
  4. ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ต้องดูแลเป็นพิเศษ (เด็อายุต่ำกว่า 15 ปี และผู้สูงวัย อายุมากกว่า 65 ปี)  

กรณีลูกค้าที่ต้องการทำธุรกรรมมากกว่า วงเงินที่กำหนดไว้หรือวงเงินฉุกเฉิน

  • แจ้งกับธนาคารในการปรับเปลี่ยนวงเงิน ซึ่งธนาคารจะมีช่องทางพิเศษในการอนุมัติการใช้วงเงินภายในหลักชั่วโมงเท่านั้น
  • กลุ่มที่ต้องการวงเงินมากกว่าที่กำหนด สามารถแจ้งธนาคารและให้เอกสารเพิ่มเติม 

ป้าหมายของมาตรการดังกล่าว

  • จำกัดไม่ให้มิจฉาชีพสามารถโอนเงินออกจากบัญชีได้ครั้งละจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพถ่ายโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดได้เร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะกักเงินของผู้เสียหายไว้ได้ทัน
  • จำกัดความเสียหายของประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของมิจฉาชีพ