‘พิชัย’ เร่งจัดกลุ่มธุรกิจ เยียวยาผลกระทบจากภาษีสหรัฐ

07 ส.ค. 2568 | 07:15 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ส.ค. 2568 | 07:24 น.

‘พิชัย ชุณหวชิร’ รองนายกฯ และรมว.คลัง เร่งจัดกลุ่มธุรกิจ เยียวยาผลกระทบภาษีสหรัฐ เล็งใช้ BOI ดูแลผู้ประกอบการผ่านกองทุนเพิ่มขีดความสามารถ

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มของธุรกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายภาษีสหรัฐนั้น ไม่เหมือนกัน เช่น กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อาหารสำเร็จรูป ก็เป็นคนละรูปแบบ โดยแต่ละกลุ่มนั้นมีปัญหาไม่เหมือนกัน โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งไปทำการบ้านมาอย่างละเอียด และตนจะลงมานั่งหารือถึงการเยียวยา แก้ไขปัญหาดังกล่าวด้วย

“ยกตัวอย่าง กลุ่มธุรกิจค้าขายเพชรพลอย ก็ได้รับผลกระทบไม่เหมือนกัน ซึ่งโดนภาษีนำเข้าจากสหรัฐ 19% ทางผู้ซื้ออาจจะไม่ขอรับต้นทุนจากสัดส่วนภาษีที่เพิ่มขึ้นทั้งหมด และอาจจะขอแบ่งรับต้นทุนภาษีนำเข้าของสหรัฐคนละครึ่ง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หลายธุรกิจมีการแข่งขันกับประเทศอื่น และผู้ซื้อหรือประชากรสหรัฐจะต้องเป็นคนรับต้นทุน และขึ้นอยู่กับว่าจะมีการตกลงกันอย่างไร ฉะนั้น รัฐบาลจึงจะเข้าไปดูรายละเอียดผลกระทบแต่ละราย”

ขณะที่กองทุนเพิ่มขีดความสามารถ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบกระตุ้นเศรษฐกิจให้ 1 หมื่นล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐ ผ่านกลไกของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้หรือไม่ โดยจะมีการขยายขอบเขตของงานให้ครอบคลุมผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

อย่างไรก็ตาม อนาคตของประเทศไทยจะต้องปรับเปลี่ยนปฏิรูปการผลิต และธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และให้มีความทันสมัยขึ้น

ทั้งนี้ จะมีการแยกเรื่องดังกล่าวออกมาดูอีกต่างหาก ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด เน้นในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบ และอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งจะต้องทำให้ผู้ประกบอการสามารถแข่งขันได้ มิฉะนั้น จะมีปัญหาในเรื่องต้นทุนที่สูง ไม่สามารถแข่งขันด้านการส่งออกได้

ขณะที่ในเรื่องการกำหนดสัดส่วนมูลค่าเพิ่มภายในภูมิภาค (RVC) นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป จะตองรอให้สหรัฐติดต่อกลับมา