ส่องโครงสร้างพื้นฐานไทยเทียบอาเซียน คู่แข่งดึงเงินเข้าประเทศ

05 ส.ค. 2568 | 08:42 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ส.ค. 2568 | 08:42 น.

ตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานไทยเทียบอาเซียน คู่แข่งดึงทุนไหลเข้าประเทศ หลังทรัมป์ประกาศเก็บภาษีนำเข้าล่าสุด ฐานเศรษฐกิจรวบรวมไว้ให้หมดแล้วที่นี่

สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีแบบต่างตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ที่เรียกเก็บจากประเทศในภูมิภาคอาเซียนเป็นที่เรียบร้อย ประกอบด้วย ไทยเหลือ 19% จาก 36% ,เวียดนามเหลือ 20% จาก 46% ,อินโดนีเซียเหลือ 19% จาก 32% และมาเลเซียเหลือ 19% จาก 25%

โดยประเด็นที่สำคัญหลังจากนี้ ก็คือการดึงการลงทุนจากต่างประเทศ ประเทศใดจะมีศักยภาพ และมีจุดเด่นมากกว่า

ทั้งนี้ “ฐานเศรษฐกิจ” จะพาไปดูข้อมูลเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ที่ไทย และคู่แข่งในอาเซียนให้กับนักลงทุน เพื่อสร้างจูงใจในการเข้ามาลงทุน

โครงสร้างพื้นฐาน

ไทย

  • มีโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพเช่น ถนน ท่าเรือน้ำลึก สนามบินนานาชาติ นิคมอุตสาหกรรมกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ ระบบไฟฟ้าที่มีความเสถียร และระบบโลจิสติกส์ต่างๆ
  • โครงข่ายดิจิทัลที่ทันสมัยและครอบคลุมทั่วประเทศ

เวียดนาม

  • พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเขตอุตสาหกรรมและเขตเศรษฐกิจพิเศษ
  • อำนวยความสะดวกเพื่อการจัดตั้งนิคมไฮเทค
  • ที่ดินสำหรับ SME กลุ่มไฮเทคลดค่าเช่า 30% ใน 5ปีแรก

ส่องโครงสร้างพื้นฐานไทยเทียบอาเซียนคู่แข่งดึงเงินเข้าประเทศ

อินโดนีเชีย

  • พัฒนาเมืองหลวงใหม่ Nusantara และเขตอุตสาหกรรมในจาการ์ตา และบาตัม
  • ลงทุนในท่าเรือและโครงข่ายการคมนาคมเพื่อสนับสนุนการส่งออกและเชื่อมโยงในประเทศ
  • การปรับปรุงสภาพแวดล้อมธุรกิจและแผนพัฒนา "นิคมอุตสาหกรรมสีเขียว"

มาเลเซีย

  • โครงข่ายถนนและทางด่วนที่ครอบคลุม ระบบโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานมีประสิทธิภาพ
  • มีการลงทุนในโครงข่ายดิจิทัลและการคมนาคมที่ทันสมัย

พลังงานสีเขียว

ไทย

  • ตั้งเป้าสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน 51% ภายในปี 2580
  • มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2593
  • ส่งเสริมการผลิตและการใช้พลังงานหมุนเวียนผ่านสิทธิประโยชน์ต่างๆ
  • การพัฒนากลไก Direct PPA และ Utility Green Tariff (UGT)

เวียดนาม

  • ส่งเสริมโครงการพลังงานหมุนเวียนผ่านการให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี
  • อัตราดอกเบี้ย 2% สำหรับโครงการสีเขียวและ ESG กลไก Direct PPA

อินโดนีเซีย

  • ยังใช้พลังงานถ่านหินเป็นหลัก
  • ตั้งเป้าสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน 17-19% ภายในปี 2568 และมากกว่า 30% ภายในปี 2593
  • ส่งเสริมการลงทุนผ่านการยกเว้นภาษีและสนับสนุนทางการเงิน

มาเลเซีย

  • ตั้งเป้าสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน 31% ภายในปี 2568 และ 70% ภายในปี 2593
  • ส่งเสริมผ่านนโยบายภาษีGITA และ GITE
  • Green Electricity Tariff
  • ไฟฟ้าพลังน้ำราคาถูก

ส่องโครงสร้างพื้นฐานไทยเทียบอาเซียนคู่แข่งดึงเงินเข้าประเทศ

แรงงาน

ไทย

  • ค่าแรงขั้นต่ำ 280-315 USD/เดือน
  • ค่าแรงเฉลี่ยในอุตสาหกรรมการผลิต 400-429 USD/เดือน
  • ค่าแรงมืออาชีพ IT 700-1,300 USD/เดือน
  • ตั้งเป้าผลิตบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์ 80,000 คน ภายในปี 2573
  • ไทยมีแรงงานที่มีทักษะสูงสนับสนุนอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าสูง
  • มีมาตรการดึงดูดบุคลากรทักษะสูงจากต่างประเทศผ่าน LTR Visa และ Smart Visa

เวียดนาม

  • ค่าแรงขั้นต่ำ 137 USD /เดือน (ขึ้นกับพื้นที่)
  • ค่าแรงเฉลี่ยในอุตสาหกรรมการผลิต 320-400 USD/เดือน
  • ตั้งเป้าผลิตวิศวกรและนักออกแบบชิป 50,000 คนภายในปี 2573
  • มีกำลังแรงงานจำนวนมากในต้นทุนที่ต่ำ

อินโดนีเซีย

  • ค่าแรงขั้นต่ำแปรผันตามพื้นที่ เช่น 130 USD/เดือน ในชวากลาง และ 350 USD/เดือนในจาการ์ตา
  • ค่าแรงเฉลี่ยในอุตสาหกรรมการผลิต 320-387 USD/เดือน
  • ลดขั้นตอนการจ้างงานแรงงานผู้เชี่ยวชาญต่างชาติ
  • มีแรงงานจำนวนมาก

มาเลเซีย

  • ค่าแรงขั้นต่ำ 375 USD/เดือน
  • ค่าแรงเฉลี่ยในอุตสาหกรรมการผลิต 612 USD/เดือน
  • ค่าแรงมืออาชีพ IT 800-1,500 USD/เดือน
  • แรงงานมีทักษะสูง
  • นโยบายทั้งดึงดูดแรงงานทักษะจากต่างชาติ

FTA

ไทย

  • FTA 24 ประเทศ (กำลังเจรจากับ EU, เกาหลี, แคนาดา)

เวียดนาม

  • FTA 53 ประเทศ เข้าร่วมCPTPP และ FTA กับ EU

อินโดนีเซีย

  • FTA 23 ประเทศ

มาเลเซีย

  • FTA 22 ประเทศ เข้าร่วม CPTPP