กองทัพภาคที่2 ลั่น กัมพูชาต้องหยุดการกระทำที่ต้องการยึดพื้นที่ประเทศไทย

25 ก.ค. 2568 | 09:15 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ค. 2568 | 09:57 น.

กองทัพภาคที่2 ยืนยันปกป้องอธิปไตย ไม่ใช่รุกรานตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง ลั่นให้หยุดการกระทำที่ต้องการพื้นที่ประเทศไทย ด้วยการนำเรื่องสู่ศาลโลก ให้นำเรื่องกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า จากสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 2 ยังคงยืนยันถึงเจตนาในการปกป้องอธิปไตย ที่เกิดจากการรุกรานของฝ่ายกัมพูชาภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ มิใช่การละเมิดหรือรุกรานจากฝ่ายไทยตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง และพยายามนำเสนอข้อมูลเพื่อสร้างความชอบธรรมในสายตาของนานาชาติ

ดังนั้น จึงขอเรียกร้องไปยังประเทศกัมพูชา ให้ยุติการกระทำในลักษณะที่ต้องการครอบครองพื้นที่ที่อาณาเขตประเทศไทย โดยนำเรื่องพื้นที่เข้าสู่กระบวนการพิจารณาตัดสินโดยศาลโลก และกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา ในฐานะมิตรประเทศต่อไป

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 (ณ เวลา 12.00 น.)ว่า ดังนี้

การอพยพประชาชน ล่าสุดอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว 63,446 คน ในจำนวน 131 จุด ดังนี้

  • จ.บุรีรัมย์ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 1 จุด 4,813 คน
  • จ.สุรินทร์ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 20 จุด 21,646 คน
  • จ.ศรีสะเกษ อพยพเข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 43 จุด 26,511 คน
  • จ.อุบลราชธานี อพยพ เข้าพื้นที่รวบรวมพลเรือน 67 จุด 10,476 คน

ผลกระทบต่อประชาชน พื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ต.ตาเมียง, ต.บักได และ ต.จีกแดก อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ มีกระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่, ต.ศรีวิเชียร อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กระสุนปืนใหญ่ตก บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 4 หลัง, ต.รุง ต.เมือง และ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษณ์  จ.ศรีสะเกษ กระสุนปืนใหญ่ตกในพื้นที่ ปัจจุบันยังไม่มีรายงานการสูญเสียต่อชีวิตของประชาชน

การช่วยเหลือประชาชน จิตอาสาพระราชทานดูแลและช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่ 4 จังหวัด เพื่อดูแลและช่วยเหลือประชาชน อำนวยความสะดวกประชาชนในศูนย์พักพิงชั่วคราวและช่วยขนย้ายสิ่งของ

รวมทั้งช่วยในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้ประชาชนได้รับทราบ โดย จัดจิตอาสา 904 และจิตอาสาพระราชทาน จำนวน 2,318 นาย เข้าช่วยเหลือประชาชน ในพื้น 4 พื้นที่ ประกอบด้วย จ.บุรีรัมย์, จ.สุรินทร์, จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี  

การจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ในพื้นที่ 4 จังหวัด ดังนี้

  • จ.บุรีรัมย์ ที่สนามช้างอารีน่า
  • จ.สุรินทร์ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อ.เมืองฯ, มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ อ.เมืองฯ และ ที่องค์การบริหารส่วนตำบลเชื้อเพลิง อ.ปราสาท
  • จ.ศรีสะเกษ ที่วิทยาลัยเทคนิคกันทรลักษ์ ต.จานใหญ่ อ.กันทรลักษ์ และ ที่โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ต.ตระกาจ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
  • จ.อุบลราชธานี ที่ว่าการอำเภอเดชอุดม

สำหรับสถานการณ์การสู้รบ วันที่ 25 ก.ค. 68 เวลา 08.30 น. กลยุทธ์ฝ่ายตรงข้ามใช้กำลังทหารรราบเข้าประชิดกำลังฝ่ายเราเพื่อป้องกันฝ่ายเราใช้อาวุธยิงสนับสนุน ฝ่ายตรงข้ามใช้รถถังและอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลโจมตีขอบหน้าพื้นที่การรบพื้นที่ส่วนหลัง มีความพยายามโจมตีในพื้นที่ ซำแต, ช่องตาเฒ่า และประสาทตาเมือน,

พื้นที่ช่องบก เป็นการตอบโต้ระหว่างปืนใหญ่กับ BM 21, พื้นที่ช่องอานม้า ปรับกำลังเข้าควบคุมตามเส้นแดน, พื้นที่ชำแต ฝ่ายตรงข้ามรวมกำลังทหารราบรถถัง ตีโต้ตอบเพื่อยึดพื้นที่คืน,

พื้นที่ช่องตาเฒ่า. พื้นที่พระวิหาร ตรึงข้าศึกบริเวณวัดแก้ว, พื้นที่ภูมะเขือ ฝ่ายเราเข้าตีฝ่ายตรงข้ามยิงโต้ตอบ, พื้นที่ช่องจอม (อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์) ทั้งสองฝ่ายใช้อาวุธยิงสนับสนุน โจมตีกันไปมา,

พื้นที่ปราสาทตาควาย (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ข้าศึกเพิ่มเติมกำลังขึ้นมาเป็นจำนวนมากฝ่ายเราต้องปรับแผน และพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม (อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์) ฝ่ายเราวางกำลัง ฝ่ายตรงข้ามพยายามเข้าตี

กองทัพภาคที่2 ลั่น กัมพูชาต้องหยุดการกระทำที่ต้องการยึดพื้นที่ประเทศไทย