SCB EIC ชี้กนง. อาจลดดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้งปีนี้ หากดีลสหรัฐเหลว

23 ก.ค. 2568 | 05:41 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2568 | 06:46 น.

SCB EIC มีโอกาสเห็น กนง. ลดดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้งปีนี้ หากไทยเจรจาภาษีกับสหรัฐไม่สำเร็จ เหตุเศรษฐกิจจะยิ่งเผชิญความเสี่ยงด้านต่ำสูงขึ้น

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า นโยบายการเงินโลกยังมีแนวโน้มผ่อนคลายในปีนี้ แต่ความเสี่ยงจากสงครามการค้า จะมีผลต่อความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า เช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด (FED) จะยังไม่เร่งปรับลดดอกเบี้ยในไตรมาส 3/68 เนื่องจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และผลกระทบกำแพงภาษีต่อเงินเฟ้อยังไม่ชัดเจน 

ขณะที่ญี่ปุ่นมีแนวโน้มคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ จากผลกำแพงภาษีที่อาจกระทบค่าจ้างและชะลอวัฏจักรเชิงบวกของเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ จากสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป SCB EIC ประเมินว่ามีโอกาสมากขึ้น ที่จะเห็นที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 2 ครั้งในปีนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ที่จะแย่ลงกว่าที่ กนง. เคยประเมินไว้ 

แต่หากการเจรจากับสหรัฐฯ ไม่สำเร็จหรือเกิดผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เพิ่มเติม เศรษฐกิจไทยจะยิ่งเผชิญความเสี่ยงด้านต่ำสูงขึ้น อาจมีโอกาสเห็น กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมากกว่า 2 ครั้งในปีนี้

SCB EIC ชี้กนง. อาจลดดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้งปีนี้ หากดีลสหรัฐเหลว

สำหรับมุมมองเศรษฐกิจโลกในปี 69 ปรับดีขึ้นบ้าง หลังสหรัฐฯ เลื่อนเก็บภาษีตอบโต้เป็น 1 ส.ค.68 และการเจรจากับประเทศคู่ค้ามีความคืบหน้ามากขึ้น แต่ผลของกำแพงภาษีสหรัฐฯ จะชัดเจนมากขึ้นหลังเดือน ส.ค. และจะกดดันเศรษฐกิจโลกต่อเนื่องไปถึงปี 69

โดยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ พบว่า เครื่องชี้กิจกรรมเศรษฐกิจของโลก ยังขยายตัวได้ดีจากการเร่งผลิตเพื่อส่งออก เช่น เศรษฐกิจจีน ขยายตัวได้ดีกว่าคาดในไตรมาส 2 อยู่ที่ 5.2%YOY ส่วนหนึ่งจากการส่งออกที่ยังขยายตัวดี โดยเฉพาะในตลาดอาเซียนและยุโรป 

อย่างไรก็ดี การนำเข้าของสหรัฐฯ ในไตรมาส 2 เริ่มลดลงต่ำกว่าเทรนด์ปกติ หลังเร่งนำเข้าล่วงหน้า (Front-load) ไปมากตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 4/67 ต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 1 ปีนี้

ซึ่งล่าสุดสหรัฐฯ เจรจาประเทศต่าง ๆ คืบหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะหลังประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งจดหมายถึงคู่ค้าหลักกลุ่มแรก ๆ แจ้งอัตราภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) ที่จะเริ่มเก็บตั้งแต่ 1 ส.ค.68 พร้อมกับเร่งให้คู่ค้ายื่นข้อเสนอที่ดี และเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ มากขึ้น นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังขู่จะเริ่มเก็บภาษีรายสินค้า (Specific tariffs) เพิ่มอีกหลายรายการ เช่น ทองแดง ,ยา และเซมิคอนดักเตอร์ภายในปีนี้