ชาญชัย จี้ ป.ป.ช. ฟัน "รัฐบาล-สส.-สว." ตัดงบฯใช้หนี้ 5 แบงก์ไปแจกเงินหมื่น

03 ก.ค. 2568 | 06:13 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ก.ค. 2568 | 06:31 น.

“ชาญชัย-คณะ” ยื่น ป.ป.ช. เพิ่ม 11 หลักฐานชิ้นเด็ด เอาผิดรัฐบาล-สส.-สว. และกรรมาธิการ ที่ให้ตัดงบใช้หนี้ 5 ธนาคารของรัฐ โยกไปแจกเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ชี้เข้าข่ายผิด ม.144 จี้เร่งส่งศาลรัฐธรรมนูญ

นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายสมชาย แสวงการ อดีต สว., นายเจษฎ์ โทณะวณิก นักกฎหมาย, นายนิติธร ล้ำเหลือ และ พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีต สว. เข้ายื่นเอกสารเพิ่มเติมกว่า 1,000 หน้า รวม 11 รายการ ต่อ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 2 ก.ค.68 

 

เพื่อยืนยันข้อกล่าวหาเอาผิดคณะรัฐมนตรีรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รวมถึงคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณรายจ่ายปี 2568, สส. และ สว. ที่ร่วมมีมติปรับลดงบประมาณจำนวน 35,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท

 

นายชาญชัย กล่าวว่า เอกสารที่ยื่นเพิ่มเติมประกอบด้วยข้อมูลแผนบริหารหนี้สาธารณะ การตรวจสอบบัญชีของ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน เอกสารของสำนักงบประมาณ ตลอดจนความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงงบประมาณต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง 2561 โดยระบุว่าการตัดงบประมาณที่มีข้อผูกพัน เช่น เงินต้นหรือดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อโยกไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น ถือเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญโดยชัดเจน

“พฤติการณ์นี้ไม่เพียงเป็นการละเมิดข้อกฎหมาย แต่ยังสะท้อนถึงการใช้อำนาจโดยไม่เคารพหลักธรรมาภิบาล เพียงเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ม.144 ระบุว่า ผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องในลักษณะดังกล่าวจะต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง” นายชาญชัยกล่าว

 

นอกจากนี้ยังเปิดเผยว่า เงินที่นำมาแจกในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้นมาจากการกู้ยืมของ 5 ธนาคารรัฐ ได้แก่ ธ.ก.ส., ธอส., SME Bank, ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า ซึ่งรัฐบาลควรจัดงบเพื่อใช้หนี้ ไม่ใช่นำไปแจกเงินเพื่อหวังผลทางการเมือง โดยตนยอมรับว่าแม้ตนเองจะเคยดำรงตำแหน่ง สว. และอยู่ในกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์ด้วย แต่เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ ป.ป.ช. เร่งชี้มูลความผิดภายในกรอบเวลาตามกฎหมาย

 

ทั้งนี้ ฝ่ายนายชาญชัยยังเน้นว่าการแปรญัตติปรับลดงบชำระหนี้ให้ธนาคารรัฐทั้ง 5 แห่ง เพื่อนำไปแจกเงิน เป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง พ.ศ. 2561 ซึ่งกำหนดให้รัฐบาลต้องตั้งงบเพื่อชดเชยหนี้จากโครงการตามนโยบายรัฐในโอกาสแรกที่สามารถทำได้

 

“พฤติการณ์นี้ชี้ชัดถึงการใช้อำนาจโดยมิชอบ และเชื่อมั่นว่าป.ป.ช.จะเร่งรัดกระบวนการพิจารณาและส่งคำวินิจฉัยต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยเร็ว” นายชาญชัยกล่าวทิ้งท้าย

ด้านนายเจษฎ์ โทณะวณิก กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีนี้อาจส่งผลให้ สส. และ สว. ที่เกี่ยวข้อง 309 คนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอาจมีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกิด “สุญญากาศทางการเมือง” แต่ตนยืนยันว่าจะไม่มีสุญญากาศ เพราะยังมี 2 ทางออก ได้แก่ การให้ปลัดกระทรวงต่างๆ เลือกบุคคลมารักษาการนายกรัฐมนตรี หรือให้พรรคการเมืองลาออกเพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45–60 วัน ตามแนวปฏิบัติของระบอบประชาธิปไตย

 

“คนที่กล่าวหาว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้ต้องการสร้างสุญญากาศเพื่อเปิดทางให้รัฐประหาร นั่นแหละคือพวกที่หวังจะได้ประโยชน์จากความปั่นป่วน หน้าที่ของสมาชิกสภาคือการปกป้องเงินแผ่นดิน แต่เมื่อไม่ทำ ประชาชนจึงลุกขึ้นมาปกป้องแทน และยืนยันว่าการเมืองไทยยังเดินหน้าต่อได้ตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่ต้องอาศัยวิธีนอกระบบ” นายเจษฎ์ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเอกสารหลักฐานที่นายชาญชัยและคณะนำส่งมอบเพิ่มเติมให้ ป.ป.ช.ประกอบด้วย

  1. เรื่องการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 1
  2. เรื่องการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สินสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 2
  3. เรื่องปรับปรุงแผนงานบริหารหนี้ ประจำปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่3
  4. เรื่องการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2568
  5. เรื่องการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สินสาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2568 ครั้งที่ 1
  6. เอกสารงบประมาณฉบับที่3 งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2568 เล่มที่ 14 รัฐวิสาหกิจ สำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี
  7. สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน รายงานการสอบบัญชีและงบการเงิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.)สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2567
  8. สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินรายงานการสอบบัญชีและงบการเงินธนาคารออมสินและบริษัทย่อยสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2567
  9. การเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ของสำนักงบประมาณเดือนส.ค. 2567
  10. สำเนาเอกสาร ด่วนที่สุดที่ นร. 0903/204 ล.ว. 24 มิ.ย. 2568 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ความเห็น แนวทางการเสนอและการเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี2569 ในการดำเนินการดังกล่าวต้องปฏิบัติตาม ม.144 วรรคหนึ่งและวรรคสองของรัฐธรรมนูญปี2560 และพ.ร.บ.วินัยการเงิน การคลังปี 2561โดยเคร่งครัด
  11. บันทึกการประชุมคณะกรรมการ วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2568 ครั้งที่ 38 เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 2567 เวลา 09.30 น.

 

"ทั้งหมดนี้ เป็นหลักฐานเอกสารการกู้เงินตามมติ ครม.โดย5ธนาคารรัฐวิสาหกิจของรัฐ ที่ไปกู้มีวัน เวลา และโครงการตามนโยบายธุรกรรมของรัฐรองรับว่าเป็นเรื่องอะไร“ นายชาญชัย กล่าว