ส่องแฟ้มสภาฯ จี้ถามปมเพิกถอนโฉนด-รื้อถอน "วอเตอร์ฟรอนท์พัทยา"

02 ก.ค. 2568 | 20:08 น.

เปิดวาระประชุมสภาฯ 3 ก.ค. 68 มีกระทู้ถามสส.พรรคประชาชน ถามความก้าวหน้าการเพิกถอนโฉนดที่ดินและการรื้อถอนอาคาร "โครงการวอเตอร์ฟรอนท์เมืองพัทยา"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) มีวาระที่น่าสนใจ วาระที่ 1.3.4 กระทู้ถามแยกเฉพาะที่ 604 เรื่อง ติดตามความก้าวหน้าการเพิกถอนโฉนดที่ดินและการรื้อถอนอาคารโครงการวอเตอร์ฟรอนท์เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยนายยอดชาย พึ่งพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน จังหวัดชลบุรี เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม ถาม นายกรัฐมนตรี

 

โดยกระทู้ระบุว่า สืบเนื่องจากได้มีคำสั่งเมืองพัทยา ลงนามโดยนายอภิชาต วีรปาล รองนายกเมืองพัทยา ได้ประกาศให้มีการรื้อถอนอาคารโครงการวอเตอร์ฟรอนท์ บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จังหวัดบุรี ตามมาตรา 42 และมาตรา 43 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2562 (กรณีที่ไม่ปฏิบัติ
ตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่ให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาต แก้ไขเปลี่ยนแปลงอาคารหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลง
ใบอนุญาต)

 

ส่งผลให้อาคารดังกล่าวรกร้างว่างเปล่ามาเป็นระยะเวลา 16 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551หลังจาก ที่ได้มีการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จึงมีการอนุมัติให้ก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟรอนท์โดยเมืองพัทยา เมื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างในช่วงระยะปี พ.ศ. 2551-2557 ได้มีกรณีร้องเรียนเกี่ยวกับการก่อสร้างที่ผิดแบบและบดบังทัศนียภาพ รวมทั้งมีการรุกล้ำในที่สาธารณะ

ต่อมา ในปี พ.ศ. 2555-2560 ได้มีการร้องเรียนให้ตรวจสอบการก่อสร้างอาคารดังกล่าว เมืองพัทยาจึงมีคำสั่งระงับการก่อสร้าง เนื่องจากมีการก่อสร้างผิดแบบและไม่ต่อใบอนุญาตการก่อสร้าง ประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าว ศาลฎีกาได้มี
คำพิพากษาว่าการออกโฉนดที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นไปโดยมิชอบ เมืองพัทยาจึงมีคำสั่งให้รื้อถอนการก่อสร้างอาคาร

 

และในปี พ.ศ. 2566 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีการขี้มูลความผิดกรณีการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารดังกล่าว และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบได้มีคำพิพากษาว่าการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หลังจากนั้น กรมที่ดินจึงเพิกถอนโฉนดที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารโครงการวอเตอร์ฟรอนท์

 

ต่อมาในคราวการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) จันทร์ที่
 10 กุมภาพันธ์ 2568 นางประทุม วงศ์สวัสดิ์ สมาชิกวุฒิสภา ได้ยื่นกระทู้ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ความล่าช้าในการรื้อถอนอาคารโครงการวอเตอร์ฟรอนท์ เมืองพัทยา โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) ได้มอบหมายให้ นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ถาม โดยชี้แจงว่า

ในเรื่องของการรื้อถอนอาคารโครงการวอเตอร์ฟรอนท์ เมืองพัทยา มีข้อเท็จจริงว่า คำสั่งให้รื้อถอนอาคารของเมืองพัทยาไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้คำสั่งให้รื้อถอนอาคาร ซึ่งลงนามโดยรองนายกเมืองพัทยาปฏิบัติราชการแทนนายกเมืองพัทยา โดยที่นายกเมืองพัทยามิได้มอบอำนาจให้รองนายกปฏิบัติราชการแทนในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น จึงเป็นคำสั่งที่ลงนามโดยผู้ไม่มีอำนาจออกคำสั่ง ทำให้คำให้คำสั่งดังกล่าวนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

เมืองพัทยาจึงได้เพิกถอนสั่งให้รื้อถอน ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2560 ตามคำวินิจฉัย
ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี และในส่วนประเด็นเรื่องของการครอบครองที่ด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น การเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟรอนท์

 

ในปัจจุบันเจ้าของโครงการยังไม่ได้นำที่ดินและอาคารไปขอจดทะเบียนเป็นอาคารชุดตามพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 และโครงการยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ดังนั้น การอนุญาตก่อสร้างหรือการรื้อถอนโครงการจึงเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2525 ซึ่งไม่อยู่
ในอำนาจหน้าที่ของกรมที่ดิน

 

ส่วนการเพิกถอนโฉนดที่ดิน กรมที่ดินได้มีหนังสือแจ้งไปยังจังหวัดชลบุรีเพื่อทราบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดิน ลงวันที่ 8 มีนาคม 2566 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อให้คณะกรรมการสอบสวน ดำเนินการสอบสวนกรณีออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้ง คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ชี้มูลว่า ที่ดินนั้นเป็นที่ดินที่มีชอบด้วยกฎหมาย

 

จากนั้นบริษัท บาลีฮาย จำกัด ได้ยื่นอุทธรณ์เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จังหวัดชลบุรียกเลิกคำสั่งงเมืองพัทยา โดยในปี พ.ศ. 2565 คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้มีคำสั่งว่าคำสั่งนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งกรมที่ดินสามารถพิจารณาดำเนินการเกี่ยวกับการเพิกถอนโฉนดที่ดิน ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการอาคารวอเตอร์ฟรอนท์ได้ 2 แนวทาง คือ ในกรณีที่กรมที่ดินมีการเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าว จะส่งผลให้ที่ดินเป็นที่สาธารณะทันที

 

จากนั้น เมืองพัทยาและอำเภอบางละมุงจะร่วมกันดำเนินการให้เจ้าของอาคารทำการรื้อถอนอาคารจากที่สาธารณะเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดูแลรักษาคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน พ.ศ. 2553

 

ทั้งนี้ ในกรณีที่กรมที่ดินมิได้เพิกถอนโฉนดที่ตั้งอาคารวอเตอร์ฟรอนท์ เมืองพัทยา จะดำเนินการพิจารณาคำขออนุญาตดัดแปลงอาคารดังกล่าวว่าสามารถพิจารณาอนุญาตได้หรือไม่ โดยจะดำเนินการตามพระระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

 

ในส่วนของการประเมินความเสียหาย เมื่อมีการเพิกถอนโฉนดที่ดินแล้ว บริษัท บาลีฮาย จำกัด สามารถเรียกค่าเสียหายจากกรมที่ดินได้ ส่วนในเรื่องของการรื้อถอนต่าง ๆ เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนแล้ว และกรมที่ดินได้มีคำสั่งเพิกถอนที่ดินนั้น จะทำให้ทำให้ที่ดินบริเวณนั้นตกเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ และขั้นตอนต่อจากนั้น เมืองพัทยาสามารถออกคำสั่งใหม่ ตลอดจนจะมีการเร่งรัดไปยังกรมที่ดินให้พิจารณาดำเนินการเพิกถอนหรือไม่เพิกถอนโฉนดที่ดินภายใน 60 วัน

 

ดังนั้น เพื่อให้ประชาชน์ได้รับทราบถึงความคืบหน้าและกระบวนการในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปอย่างโปร่งใส ตลอดจนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสาธารณะในอนาคต จึงขอเรียนถามว่า

 

1. กรมที่ดินได้ดำเนินการพิจารณาเกี่ยวกับการเพิกถอนโฉนดที่ดินของอาคารโครงการวอเตอร์ฟรอนท์ เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี อยู่ในกระบวนการและขั้นตอนใด และขณะนี้ผลการพิจารณาเป็นประการใด ขอทราบรายละเอียด

 

2. หากกรมที่ดินมีการเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าว จะทำให้ที่ดินบริเวณนั้นตกเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ รัฐบาลมีมาตรการหรือคำสั่งให้เมืองพัทยาและอำเภอบางละมุงร่วมกันดำเนินการอย่างไรให้เจ้าของอาคารทำการรื้อถอนอาคารจากที่สาธารณะเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดูแลรักษาคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัมกัน
พ.ศ. 2553 และจะดำเนินการบริหารจัดการพื้นที่ดังกล่าวอย่างไร เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสาธารณะ รวมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ขอทราบรายละเอียด

 

3. หากขั้นตอนการพิจารณาของกรมที่ดินครบกำหนด 60 วันแล้ว รัฐบาลจะดำเนินการเยียวยาความเสียหายแก่บุคคลที่ได้ทำการซื้อขายห้องพักโดยสุจริตอย่างไร และมีแนวทางในการสนับสนุนเมืองพัทยา ในการเร่งรัดกระบวนการรื้อถอนอาคารดังกล่าวอย่างไร ขอทราบรายละเอียด

ส่องแฟ้มสภาฯ จี้ถามปมเพิกถอนโฉนด-รื้อถอน "วอเตอร์ฟรอนท์พัทยา"

ส่องแฟ้มสภาฯ จี้ถามปมเพิกถอนโฉนด-รื้อถอน "วอเตอร์ฟรอนท์พัทยา"

ส่องแฟ้มสภาฯ จี้ถามปมเพิกถอนโฉนด-รื้อถอน "วอเตอร์ฟรอนท์พัทยา"

 

 

ที่มา - ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๑ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๓ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เวลา ๐๙:๐๐ น. ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร