แพทองธาร ต่อสาย มาครง ดึงฝรั่งเศสร่วมวงแก้ปมชายแดนไทย–กัมพูชา

27 มิ.ย. 2568 | 11:09 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มิ.ย. 2568 | 11:14 น.

นายกฯ แพทองธาร ต่อสายคุย เอมานูว์แอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส กระชับความสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ พร้อมร่วมมือแก้ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา เตรียมเยือนไทยปีหน้า

วันนี้ (27 มิถุนายน 2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง (H.E. Mr. Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยสรุปสาระสำคัญดังนี้

นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีมาครง แสดงความยินดีที่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีรับตำแหน่ง โดยนายกรัฐมนตรียืนยันความตั้งใจที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไทย–ฝรั่งเศส สู่ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์โดยเร็ว 

พร้อมแสดงความยินดีหากประธานาธิบดีมาครง จะเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในห้วงที่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดขององค์การระหว่างประเทศของกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศส (Organisation Internationale de la Francophonie : OIF) ที่กัมพูชาในปีหน้า ซึ่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ รวมถึงเชิญเข้าร่วมการประชุม Paris Peace Forum ที่ฝรั่งเศส เช่นกัน

 

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส

 

ทั้งสองฝ่ายมองว่าสถานการณ์ในปัจจุบันที่การเมืองและเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ทำให้ต้องร่วมมือกันมากขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องการค้าและ การลงทุน และทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นในความร่วมมือระหว่างกันที่วางอยู่บนกฎระเบียบระหว่างประเทศ ด้านฝรั่งเศสมุ่งหวังขยายความร่วมมือกับไทยมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านความมั่นคงและเทคโนโลยีอวกาศ

ผู้นำทั้งสองแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจโลก โดยไทยยืนยันจุดยืนรักษาสมดุลระหว่างประเทศมหาอำนาจ พร้อมสนับสนุนระเบียบโลกที่ตั้งอยู่บนกฎระเบียบสากล 

โดยไทยแสดงความขอบคุณฝรั่งเศสที่สนับสนุนการเข้าร่วมเป็นสมาชิก OECD และหวังว่าฝรั่งเศสจะสนับสนุนการเจรจา FTA ไทย–สหภาพยุโรปต่อไป ซึ่งฝรั่งเศสยินดีสนับสนุนไทยในเรื่องนี้ และมุ่งหวังให้กระบวนการเข้าสู่ OECD ของไทยเป็นไปอย่างราบรื่น

มิติอาเซียน นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับบทบาทศูนย์กลางของอาเซียนในการรับมืออาชญากรรมข้ามชาติ และรัฐบาลกำลังดำเนินมาตรการเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมไซเบอร์ และยืนยันความพร้อมในการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับประเทศเพื่อนบ้านและหุ้นส่วนระหว่างประเทศอื่น ๆ รวมถึงฝรั่งเศสด้วย โดยฝรั่งเศสพร้อมสนับสนุนนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้

 

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือทางโทรศัพท์กับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส

 

สำหรับประเด็นสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ประเทศไทยยึดมั่นในหลักการแก้ไขปัญหาอย่างสันติ ด้วยความสุจริตใจ บนพื้นฐานของความเป็นมิตรที่ดีระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในอาเซียน และหลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเห็นว่าการเจรจาในกรอบทวิภาคีคือแนวทางที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการหาทางออกที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ร่วมกัน

นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำว่า ประเทศไทยยังคงสนับสนุนให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (JBC) ซึ่งได้มีการประชุมที่กรุงพนมเปญ เดินหน้าทำงานต่อไปด้วยดี และหวังว่าฝรั่งเศสในฐานะหุ้นส่วนระหว่างประเทศที่ใกล้ชิด จะมีบทบาทสนับสนุนบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจรจาทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ให้กลับมาดำเนินต่อไปด้วยดี 

ทั้งนี้ประธานาธิบดีฝรั่งเศส รับทราบเจตนารมณ์ของไทย และจะพิจารณานำไปประสานความร่วมมือกับกัมพูชาต่อไป

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และสถานการณ์ในเมียนมา โดยนายกรัฐมนตรีแสดงจุดยืนสนับสนุนการหยุดยิงและการงดใช้ความรุนแรงจากทุกฝ่าย 

สำหรับเมียนมา ไทยพร้อมมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสนับสนุนกระบวนการสันติภาพและการเมืองในเมียนมาและสนับสนุนบทบาทของมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน และความพยายามทั้งหมดภายใต้กรอบอาเซียน รวมถึงเน้นการเปิดพื้นที่สำหรับการหารือและการมีส่วนร่วม และนายกรัฐมนตรีเชื่อว่าสันติภาพที่ยั่งยืนต้องขับเคลื่อนโดยประชาชนเมียนมา และควรพิจารณาทุกทางเลือกที่นำไปสู่สันติภาพ