กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 17 มิถุนายน 2568 เห็นชอบหลักการให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโครงการจัดการแข่งขันรถยนต์ชิงแชมป์โลก รายการ FIA FORMULA ONE WORLD CHAMPIONSHIP หรือการจัดการแข่งขันรถยนต์ Formula One (F1) ในพื้นที่กรุงเทพฯ รวม 5 ปี เริ่มตั้งตั้งแต่ปี 2571-2575 ภายใต้กรอบวงเงินกว่า 41,379 ล้านบาท นั้น
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในส่วนของรายละเอียดเกี่ยวกับวงเงินที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอขอมายังที่ประชุมครม.นั้น มีข้อสังเกตุจากหน่วยงานต่าง ๆ ว่า เป็นวงเงินที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แจ้งรายละเอียดว่า
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถยนต์ Formula One ในประเทศไทย ภายในกรอบวงเงิน 41,379 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เสนอในครั้งนี้ ใช้รูปแบบการลงทุนโดยภาครัฐทั้งหมด โดยครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ค่าธรรมเนียมสิทธิในการจัดการแข่งขัน และการบริหารจัดการตลอดระยะเวลาของการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันดังกล่าว
ถือเป็นวงเงินที่ค่อนข้างสูง และอาจส่งผลกระทบต่อสถานะการเงินการคลังของประเทศในอนาคต โดยเฉพาะในบริบทที่ภาครัฐมีข้อจำกัดด้านงบประมาณและภาระทางการคลังจากภารกิจจำเป็นอื่น ๆ ที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไป
ทั้งนี้ จากผลการศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้แสดงให้เห็นว่า แม้การลงทุนโดยภาครัฐทั้งหมดจะมีข้อดีบางประการ เช่น การควบคุมทิศทางของโครงการได้อย่างเต็มที่ และการรักษาผลประโยชน์สาธารณะในภาพรวมของประเทศ รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นต่อเจ้าของสิทธิในระดับนานาชาติได้
แต่ก็มีข้อเสียที่สำคัญ โดยเฉพาะความเสี่ยงด้านการขาดทุนที่ตกอยู่กับภาครัฐเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งหากการเป็นเจ้าภาพ ดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย อาจก่อให้เกิดภาระทางการคลังอย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้จากการวิเคราะห์ความคุ้มค่ากรณีวัดผลประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดงานในรูปรายได้ จากการจัดงาน (ไม่รวมการพิจารณาความคุ้มค่าจากปัจจัยด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจ) ปรากฏว่า ในการวิเคราะห์รายได้ค่าใช้จ่ายของโครงการทั้งกรณีฐาน กรณีที่ดีกว่าคาดการณ์ และกรณีที่แย่กว่าคาดการณ์ ของการเสนอขอเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถยนต์ Formula One
ทั้ง 3 กรณี จะไม่สามารถสร้างรายได้จากการจัดงานรวมมากกว่างบประมาณค่าใช้จ่ายในการจัดงานและลงทุนไป ทำให้มีมูลค่ากำไรสุทธิติดลบทั้ง 3 กรณี เช่น กรณีฐานมูลค่ากำไรสุทธิจะติดลบ 9,788 ล้านบาท, กรณีที่ดีกว่าคาดการณ์มูลค่ากำไรสุทธิจะติดลบ 6,824 ล้านบาท และกรณีที่แย่กว่าคาดการณ์มูลค่ากำไรสุทธิจะติดลบ 10,752 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี โดยที่การเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถยนต์ Formula One เป็นเรื่องในเชิงนโยบายที่คณะรัฐมนตรีสามารถพิจารณาได้ เนื่องจากเป็นการดำเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้าน Soft Power และสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาให้เติบโตในระยะยาว
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความรอบคอบ และไม่เป็นภาระต่องบประมาณมากเกินความจำเป็นเห็นสมควรที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะพิจารณาแนวทางการดำเนินการในเรื่องนี้ให้ครบถ้วนและครอบคลุมผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในทุกมิติ โดยเฉพาะแนวทางในการเพิ่มรายได้และลดภาระงบประมาณภาครัฐเพิ่มเติม เช่น การออกแบบกลไกการให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้น
รวมทั้งควรดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ซึ่งบัญญัติให้การดำเนินการใด ๆ ของรัฐที่มีผลผูกพันทรัพย์สินหรือก่อให้เกิดภาระทางการเงินการคลังแก่รัฐ ต้องพิจารณาความคุ้มค่า ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม และความยั่งยืนทางการคลังของรัฐด้วย
นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการศึกษาข้อจำกัดและข้อกำหนดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่และโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ข้อจำกัดตามผังเมือง การประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการจราจร และความพร้อมของเมืองเจ้าภาพ และจากประเด็นความท้าทายทางสังคมที่อาจจะต้องทำให้เกิดการรบกวนชุมชน ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและการเดินทาง รวมถึงประชาชนในพื้นที่ถูกบังคับให้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวัน
ทั้งนี้ควรรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างเปิดเผยและโปร่งใส เพื่อให้การดำเนินการเป็นเจ้าภาพอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่รอบด้านและลดความเสี่ยงในการเกิดข้อขัดแย้งในระยะยาว และขอให้ดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัดด้วย
อย่างไรก็ตามมติครม.ครั้งนี้ ได้เห็นชอบในหลักการจัดการแข่งขัน F1 และเห็นชอบการขอรับการสนับสนุนจากภาคเอกชน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐ หากไม่เพียงพอสามารถตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี ตามความจำเป็น และเหมาะสม ทั้งนี้ หากได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนและมีเงินคงเหลือ ให้นำส่งและคืนเงิน ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป