วันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้เชิญคณะทูตและผู้แทนจากสถานทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยกว่า 40 ประเทศ รวมถึงกัมพูชา เข้าร่วมฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากสาธารณชนและชุมชนระหว่างประเทศอย่างมากในขณะนี้ โดยการชี้แจงในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันอย่างถูกต้องและรอบด้านเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รวมถึงแสดงจุดยืนของรัฐบาลไทยที่ต้องการเดินหน้าแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ
การบรรยายในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศ นำโดยนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญในฐานะคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และนายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก
การเข้าร่วมรับฟังของคณะทูตครั้งนี้ถือว่ามีความคึกคัก โดยมีผู้แทนจาก 80 คน จาก 40 สถานทูตทั่วโลกเข้าร่วม อาทิ เอกอัครราชทูตจากฟินแลนด์ อินเดีย เม็กซิโก กัวเตมาลา มัลดีฟส์ ติมอร์-เลสเต เมียนมา เปรู และอียิปต์ ขณะที่อุปทูตจากประเทศต่างๆ อาทิ ออสเตรีย เนปาล ปากีสถาน เช็ก นิวซีแลนด์ ชิลี นอร์เวย์ อาร์เจนตินา และกัมพูชา ก็ได้เข้าร่วมรับฟังข้อมูลอย่างใกล้ชิด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของประชาคมระหว่างประเทศต่อพัฒนาการของสถานการณ์นี้
นางเอกสิริได้กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการจัดการและคลี่คลายปัญหากับกัมพูชาอย่างสันติ ผ่านการหารืออย่างเป็นมิตรและอยู่บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี โดยเน้นย้ำว่า กลไกของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ซึ่งเป็นเวทีหารือในระดับทวิภาคี เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการเดินหน้าหาทางออกให้กับความตึงเครียดที่เกิดขึ้น
ทั้งสองประเทศได้แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ร่วมกันในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ด้วยการปรับกำลังของกองทัพตามแนวชายแดน เพื่อลดความตึงเครียด และยังคงยึดมั่นในหลักการของการรักษาอธิปไตยของประเทศอย่างไม่เปลี่ยนแปลง โดยการหารือระดับผู้นำระหว่างไทยและกัมพูชาก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อหาทางออกร่วมกัน
การประชุม JBC ครั้งล่าสุด ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ได้ส่งสัญญาณบวก โดยมีผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในด้านเทคนิคและถือเป็นก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ขณะเดียวกัน ไทยเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC ครั้งถัดไปในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งเวทีที่เปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ต่อไป
ในช่วงท้ายของการบรรยาย นางเอกสิริยังได้กล่าวเตือนด้วยความห่วงใยถึงบทบาทของสื่อสังคมออนไลน์ที่อาจกลายเป็นดาบสองคม หากมีการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนหรือแสดงความคิดเห็นในเชิงยั่วยุ ซึ่งอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความระมัดระวังในการสื่อสารและรักษาบรรยากาศของการเจรจาอย่างสันติ เพราะในขณะนี้ ความพยายามของทั้งสองประเทศในการคลี่คลายสถานการณ์ยังคงดำเนินต่อไป และควรได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนอย่างสร้างสรรค์