ส.อ.ท. ห่วงค้าชายแดน 1.7 แสนล้านกระทบ หลังไทยมีมาตรการปิดด่าน

10 มิ.ย. 2568 | 03:29 น.
อัปเดตล่าสุด :10 มิ.ย. 2568 | 03:29 น.

ส.อ.ท. ห่วงการค้าชายแดนกว่า 1.7 แสนล้านบาทได้รับกระทบ หลังไทยมีมาตรการปิดด่านเป็นเวลา หวังการเจรจาได้ข้อยุติไม่เกิดสถานการณ์ยืดเยื้อ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” เกี่ยวกับผลกระทบการเปิด-ด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตามเวลา ว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวแน่นอนว่าย่อมทำให้เกิดการชะงักงันของการขนส่งสินค้าที่ต้องผ่านชายแดนที่มีการเปิด-ปิดเป็นเวลาตามมาตรการของกองทัพบก 

ทั้งนี้ เท่าที่สอบถามสมาชิกของ ส.อ.ท. ปัจจุบันเริ่มได้รับผลกระทบบ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ในขณะนี้ กำลังรอสรุปตัวเลขที่ขัดเจนอยู่ โดยไทยมียอดการค้าชายแดนไทย-กัมพูชาอยู่ที่ประมาณ 1.7 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งด่านที่อรัญประเทศมียอดค้าขายมากที่สุดประมาณ 1.1 แสนล้านบาท หรือประมาณ 64% ของมูลค่าทั้งหมด

“เวลานี้ยังประเมินไม่ได้ว่ากระทบเท่าไหร่ แต่หากคำนวณด้วยวิธีการหารจากยอดส่งออกทั้งหมดต่อวัน ก็น่าจะอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาทต่อวัน แต่ต้องทำความเข้าใจด้วยว่ามูลค่า 500 ล้านบาทดังกล่าวคงไม่ได้ถูกกระทบไปทั้งหมด มีเพียงบางส่วนเท่านั้น หรือเรียกว่าถูกกระทบบ้าง”

ส.อ.ท. ห่วงค้าชายแดน 1.7 แสนล้านกระทบ หลังไทยมีมาตรการปิดด่าน

อย่างไรก็ดี หวังว่าสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นจะไม่ยืดเยื้อเป็นเวลานาน เพราะยิ่งยืดเยื้อมากเท่าไหร่ ผลกระทบก็มากขึ้นตามไปด้วย เนื่องจากการที่มีมาตรการไม่ปกติ ย่อมทำให้เกิดผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็เข้าใจว่าการดำเนินมาตรการดังกล่าว เพื่อทำให้เกิดการเจรจาหาข้อสรุปอย่างสันติวิธี 

“แน่นอนว่าเมื่อเกิดข้อพิพาท ก็จะทำให้ทั้งไทยและกัมพูชาได้รับความเสียหาย โดยไทยเป็นฝ่ายที่ได้ดุลการค้าจากการส่งสินค้าอุปโภค บริโภค น้ำมันเครื่อง เครื่องยนต์ เครื่องจักรก็ได้รับผลกระทบ แต่เชื่อไม่มีผู้ใดต้องการให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วไทยก็จำเป็นต้องปิดด่านขั่วคราว เพื่อให้เกิดการเจรจาบนโต๊ะ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเจรจาจะได้ผลที่ดี  มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน เพื่อทำให้ด่านต่างๆกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งไม่ได้รับผลกระทบ มีการค้าขายเหมือนเดิม“

ส่วนมาตรการรองรับนั้น เวลานี้ยังไม่มี ต้องรอผลการเจรจา ที่ผ่านมาก็มองว่าการเจรจาเป็นไปในทิศทางที่ดี และถือว่าโชคดีที่ไม่เกิดการสู้รบ หรือเกิดสงคราม ถือว่าเป็นการถอดสลัก หรือถอดชนวนได้ทันเวลาทั้ง 2 ฝั้งก่อนที่จะเกิดการปะทะ หรือบานปลาย เพราะการเกิดสงครามย่อมสร้างความเสียหายทั้งสองฝั่ง และกระทบกระเทือนต่อการดำรงชีวิต การค้าขาย ซึ่งไม่เป็นผลดีกับใคร