นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการสั่งให้ทีมตรวจการณ์กระทรวงฯลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบโกดังซุกซ่อนกลางป่ายาง ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลมะขามคู่ อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง
โดยตรวจพบกองยางรถยนต์จำนวนมาก ส่วนใหญ่จะถูกเจียรขัดผิวแก้มยางทั้ง 2 ด้าน เพื่อลบชื่อยี่ห้อ และวันผลิตยางออกบางตัวอักษร ซึ่งเป็นเจตนาปกปิดอำพรางข้อมูลบนยางอย่างชัดเจน จึงได้ทำการยึดอายัดทั้งหมดประมาณ 74,504 เส้น มูลค่าโดยประมาณเส้นละ 3,000 บาท รวมมูลค่าอายัดทั้งสิ้น 223,512,000 บาท
นอกจากนี้ จากการตรวจค้นภายในตู้สำนักงาน พบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด เช่น ใบโอนย้ายสินค้าที่ระบุว่าเป็นของ บริษัท แอลแอลไอที (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 4 ใบ สมุดบันทึกรายละเอียดยางรถยนต์ และหินเจียรมือถือ เป็นต้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ควบคุมคนงานได้รวม 14 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา ที่เหลือเป็นชาวจีนไปดำเนินคดี
ซึ่งจากการสอบถามคนงานแจ้งว่า เจ้าของสถานที่ดังกล่าวเป็นคนไทยและให้ชาวจีนเช่าพื้นที่ ซึ่งเจ้าของชาวจีนได้ออกนอกประเทศไปแล้ว ส่วนยางรถยนต์ส่วนใหญ่มีต้นทางมาจาก บริษัท แอลแอลไอที (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
อีกทั้งยังมียางล้อรถยนต์ของบริษัทอื่นปะปนอยู่ด้วย ได้แก่ บริษัท จงเซ่อ รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท เจนเนอรัล รับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด และ บริษัท หวาอี้ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งทั้ง 3 บริษัทตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง
นางสาว LAN, JININA ผู้จัดการฝ่ายบัญชีของ บริษัท หลิงหลง จำกัด กล่าวว่า บริษัท หลิงหลง จำกัด ได้นำยางมาเก็บไว้ในที่เกิดเหตุ โดยไม่ได้ทำสัญญาเช่า แต่รู้จักกับนายโจฮุย ซึ่งเป็นชาวจีนด้วยกัน และนายโจฮุยรู้จักกับเจ้าของที่ดิน จึงนำยางรถยนต์ทั้งหมดเป็นยางเสื่อมคุณภาพและเป็นยางตกเกรดมาเก็บไว้เพื่อรอทำลาย
“เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตว่าหากเป็นยางเสื่อมคุณภาพและเป็นยางตกเกรดที่รอทำลาย ทำไมจึงไม่ส่งไปยังบริษัทรับกำจัดที่ปลายทางเลย แต่ทำไมถึงนำมาพักไว้ที่โกดังแห่งนี้ก่อน”
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) จึงดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ บริษัท แอลแอลไอที (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเรื่องการกำจัดยางเสื่อมคุณภาพที่ต้องส่งกำจัดให้ถูกต้อง และยึดอายัดยางรถยนต์ทั้งหมด รวมถึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลต่อไป