นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงภารกิจเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องรีบดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ควรเตรียมมาตรการรองรับภาคการส่งออก ทำอย่างไรให้ผู้ส่งออกได้รับความช่วยเหลือ และต้องมีการหาตลาดใหม่ร่วมกันแบบบูรณาการ
ทั้งนี้ จากการประชุมคณะกรรมร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ครั้งล่าสุดมีการปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีไทยปี 68 เหลือ 1.5-2% ส่วนการส่งออกที่แม้ว่า 4 เดือนแรกของปีจะออกมาดี เพิ่มขึ้น 14% แต่ก็มาจากปัจจัยที่มีการเร่งส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ทันต่อกรอบเวลากำหนดการผ่อนคลายภาษีนำเข้า 90 วัน ทำให้ยอดการส่งออกสูงในช่วงสั้น
แต่หลังจากนี้เป็นต้นไปโดยเฉพาะช่วงครึ่งปีหลัง เอกชนมีความกังวลอย่างมาก โดยหากสถานการณ์ยังมีความไม่แน่นอนสูง ขณะที่ผลการเจรจาระหว่างไทยกับสหรัฐฯก็ยังไม่รู้ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร หลังจากที่หมดกรอบระยะเวลา
“จากการสอบถามผู้ประกอบการล่าสุด พบว่ายอดคำสั่งซื้อ หรือออเดอร์เริ่มลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ”
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการคือการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) การกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ เพราะปัจจุบันจะเห็นว่ากำลังซื้อของประชาชนลดลง จากการระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายเนื่องจากกังวลเรื่องความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
ขณะที่ยอดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากประเทศจีน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีการใช้จ่ายจำนวนมาก ทั้งการบริโภคอาหาร และการเดินทางท่องเที่ยว เช่น ย่านบรรทัดทอง หรือห้างสรรพสินค้าที่พึ่งพาลูกค้าจากจีนจำนวนมากปัจจุบันจะหายไปอย่างชัดเจน
แม้จะมีการทดแทนด้วยนักท่องเที่ยวจากยุโรป อิสราเอล รัสเซีย และมาเลเซียที่เพิ่มขึ้น แต่กลุ่มดังกล่าวจะมีไลฟ์สไตล์ในการท่องเที่ยวที่แตกต่างจากจีน ซึ่งเน้นเรื่องการรับประทานอาหาร และซื้อสินค้า โดยมีผลทำให้เงินกระจายตัวไปยังแหล่งต่างๆ ที่ได้เปิดรองรับไว้แล้ว
“หากจะมองให้เห็นภาพก็คือ แต่ก่อนจะคึกคักอย่างมาก แต่เวลากลับมีการเปลี่ยนแปลง โดยที่ร้านค้าเหล่านั้นซึ่งพึ่งพานักท่องเที่ยวจีน แต่ละรายก็มีสายป่านไม่เท่ากัน ซึ่งไม่รู้ว่าจะทนได้ถึงสิ้นปีหรือไม่ หากสถานการร์ยังไม่เปลี่ยนแปลง“
ขณะที่นักท่องเที่ยวยุโรป อิสราเอลจะเน้นรูปแบบที่เป็นธรรมชาติ โดยจะเลือกไปยังหมู่เกาะ หรือพักโรงแรม 5 ดาว และใช้ชีวิตในโรงแรม มีความสนุกกับธรรมชาติ และสระว่ายน้ำของโรงแรม ซึ่งใช้เงินไม่มาก โดยที่เงินเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็จะไปอยู่กับโรงแรมที่เป็นสาขาจากต่างประเทศ ดังนั้น รัฐบาลจะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเพิ่มสภาพคล่องให้กับเอสเอ็มอี
อย่างไรก็ตาม นอกจากปัจจัยเรื่องกำลังซื้อ หนี้ภาคครัวเรือน สิ่งที่เอกชนกังวลคือสินค้านำเข้าราคาถูกที่ทะดลักเข้ามาทั้งที่ถูก และไม่ถูกกฎหมายที่มีมาตรฐาน หรือไม่มี ปัจจุบันสถานการณ์ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นตามสภาพของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน