นักวิชาการชี้นโยบายการเงิน-คลังไม่แตกแยกดันเศรษฐกิจไทยโตสูง

09 มิ.ย. 2568 | 00:29 น.

นักวิชาการออกโรงชี้นโยบายการเงิน-คลังสอดประสานจะทำให้เศรษฐกิจไทยโตสูง และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ อดีตกรรมการและกรรมการตรวจสอบธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นโยบายการเงิน นโบบายอัตราแลกเปลี่ยน การกำกับดูแลสถาบันการเงินและระบบการชำระเงินต้องมีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับพลวัตทางเศรษฐกิจการเงินโลก สามารถรับมือความท้าทายของสถานการณ์เศรษฐกิจโลกภายใต้สงครามการค้า 

ทั้งนี้ การบริหารนโยบายการเงินและมาตรการเงินนอกจากต้องดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจและระบบการเงินแล้ว ต้องสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพและยั่งยืนด้วย

มาตรการทางการเงินต้องสนับสนุนการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรม 

ส่วนบทบาทของธนาคารกลางต้องถูกปรับเปลี่ยนให้ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางมากยิ่งขึ้น การมีนโยบายการเงินและนโยบายการคลังที่สอดประสานกันจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยสูงขึ้น

โดยที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมาย ไม่ทำให้อัตราเงินเฟ้อหลุดกรอบเป้าหมายเช่นที่เกิดขึ้นในขณะนี้ 

ล่าสุดอัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ค. ปรับตัวลดลงติดลบ -0.57% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันปีที่แล้ว เป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง

อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงเป็นบวกอยู่ เงินเฟ้อไทยต่ำที่สุดในอาเซียนโดยอยู่ในอันดับต่ำสุดอันดับ 7 ของโลก โดยคาดการณ์ว่าทั้งปี อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยน่าจะอยู่ต่ำกว่า 1% ภาวะดังกล่าว ทำให้ประเทศไทยเข้าใกล้ภาวะเงินฝืดมากขึ้นตามลำดับ จึงมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินเพื่อลดความเสี่ยงภาวะเงินฝืดในอนาคต