นายสุโรจน์ แสงสนิท นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการต่อยอดการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเทคโนโลยียานยนต์ยั่งยืนของเอเชีย โดยมองว่ายานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV)ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ในทศวรรษที่ผ่านมา
ซึ่งในระยะต่อไปคือการยกระดับสู่ยานยนต์สมัยใหม่ที่ผสมผสานด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ เช่น ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Autonomous) ,การเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Connectivity) และบริการด้านการเดินทางอย่าง Mobility-as-a-Service (MaaS) เข้าด้วยกัน
โดยจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางที่ลดการปล่อยมลพิษ และสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero อย่างยั่งยืน อีกทั้งเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย ADAS และ V2G (Vehicle-to-Grid) จะกลายเป็นแกนกลางของโซลูชันการเดินทางในอนาคต ที่ทำให้ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นแพลตฟอร์มพลังงานอัจฉริยะ ที่จะเชื่อมโยงกับโครงข่ายเมือง และรองรับพลังงานหมุนเวียนในอนาคต
ทั้งนี้ ล่าสุด EVAT ได้ดำเนินการร่วมกับอินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย จัด MobilityTech Asia – Bangkok (MTAB) และ การประชุม iEVTech Conference ซึ่งจะเป็นเวทีระดับนานาชาติที่รวมผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัย และภาคธุรกิจจากทั่วโลกภายใต้ธีม Mobilize to Globalize: Innovative Supply Chain and Technology for Sustainability มาแลกเปลี่ยนความรู้ เทรนด์ล่าสุดในอุตสาหกรรมอีวี และยานยนต์สมัยใหม่ โดยจะช่วยสร้างโอกาสด้านธุรกิจ การลงทุน และความร่วมมือในระดับภูมิภาค เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ระดับสากล
นายสรรชาย นุ่มบุญนำ ผู้จัดการทั่วไป อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย กล่าวว่า การรีแบรนด์สู่ MTAB เป้นการขยายขอบข่ายครอบคลุมทุกมิติของเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคตอย่างครบวงจรในระดับสากล ซึ่งจะสร้างโอกาสให้ได้เห็นเทคโนโลยีที่หลากหลาย ตั้งแต่เทคโนโลยีต้นน้ำสู่ปลายน้ำ ต่อเนื่องถึงการบริการ โครงข่าย ซอร์ฟแวร์ ระบบอัจฉริยะ เป็นต้น
โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 32,000 ราย ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยในการผลักดันศักยภาพของประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางแห่งนวัตกรรมยานยนต์และระบบขนส่งอัจฉริยะที่ยั่งยืนของภูมิภาคอย่างครบวงจร โดยงานจะมีวันที่ 2-4 ก.ค. 68 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์