“อมตะ” กำไรพุ่งกว่า 829 ล้านไตรมาส 1/68 รับอนิสงส์ย้ายฐานการผลิต

22 พ.ค. 2568 | 06:57 น.
อัปเดตล่าสุด :22 พ.ค. 2568 | 06:57 น.

อมตะเผยผลดำเนินงานไตรมาส 1/68 กำไรพุ่งกว่า 829 ล้าน โตขึ้น 97% หลังยอดขายที่ดินไฟฟ้าโตรับอนิสงส์ย้ายฐานการผลิต

นางสาวเด่นดาว โกมลเมศ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1/68 ว่า มีรายได้รวม 3,390 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 829 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79% จากแรงหนุนธุรกิจหลัก โดยเฉพาะยอดขายที่ดินในนิคมฯ ไทย-เวียดนามที่มีอัตราการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจพลังงานที่ขยายตัวโตต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ อมตะมีรายได้จากการโอนขายที่ดิน (Land Sale)1,913 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 857 ล้านบาท คิดเป็น 81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีการโอนที่ดินรวม 279 ไร่ แบ่งเป็นในไทย 266 ไร่ และเวียดนาม13 ไร่ 

 

ส่วนไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีการโอนที่ดิน 151 ไร่ ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 55% ปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ Backlog (31 มี.ค. 2568) อยู่ที่ 21,491 ล้านบาท 

“อมตะ” กำไรพุ่งกว่า 829 ล้านไตรมาส 1/68 รับอนิสงส์ย้ายฐานการผลิต

สำหรับรายได้จากบริการสาธารณูปโภคอยู่ที่ 1,172 ล้านบาท ลดลง 251 ล้านบาท หรือคิดเป็น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสาเหตุเกิดจากการใช้ไฟฟ้าในเวียดนามที่ชะลอตัว แต่ยังสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ดี 

ด้านรายได้จากการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปเติบโตต่อเนื่อง อยู่ที่ 245 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21 ล้านบาท พร้อมอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 77% นอกจากนี้ ยังมีรายได้อื่นที่เกิดขึ้นประมาณ 61 ล้านบาท 

“การเติบโตของผลประกอบการในไตรมาส 1/68 มาจากทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะยอดโอนขายที่ดินที่ขยายตัวอย่างโดดเด่นจากนิคมฯอมตะซิตี้ ชลบุรี, อมตะซิตี้ ระยอง และนิคมฯ ในเวียดนาม รวมถึงการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพของทีมงานที่มุ่งพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน รวมถึงต่อยอดรายได้จากสาธารณูปโภคและการให้เช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์ เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุน”

นายโอซามู ซูโด รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การตลาด AMATA กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 ปี 2568 มีสัญญาณฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคการส่งออกและการผลิตอุตสาหกรรม ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนและการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวแข็งแกร่ง แม้การท่องเที่ยวจากจีนจะชะลอตัวจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย

ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ระบุว่าในไตรมาส 1/ 68 มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 822 โครงการ มูลค่ารวม 431,237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะการลงทุนจากต่างประเทศที่พุ่งทะลุ 260,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นนักลงทุนจากฮ่องกง จีน และสิงคโปร์ สะท้อนความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนแห่งภูมิภาค