กรมสรรพากรอุดช่องโหว่ภาษี ช่วย SMEs ไทยสู้ศึกออนไลน์กับยักษ์ต่างชาติ

ปรับกติกาใหม่ สร้างความเท่าเทียมในตลาดดิจิทัล

ท่ามกลางความท้าทายของผู้ประกอบการ SMEs ไทยที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างรุนแรงจากแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างประเทศ กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพากรได้เดินหน้ายกระดับมาตรการปกป้องผู้ประกอบการในประเทศ ด้วยการปรับปรุงกฎหมายภาษีที่จะสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันอย่างแท้จริง

นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการปกป้อง SMEs จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมเป็นลำดับแรก โดยกรมสรรพากรอยู่ระหว่างยกร่างกฎหมายปรับปรุงแก้ไขประมวลรัษฎากร เพื่อกำหนดให้ผู้ขายสินค้าที่มีมูลค่าต่ำ (ราคาไม่เกิน 1,500 บาท) และส่งเข้ามาจากต่างประเทศต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มกับกรมสรรพากร จากเดิมที่เคยได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม

ปิดช่องว่างกฎหมาย สร้างความเท่าเทียมทางภาษี

การแก้ไขกฎหมายครั้งนี้จะช่วยปิดช่องว่างที่ผู้ประกอบการต่างประเทศเคยได้เปรียบในการขายสินค้าราคาต่ำเข้ามาในประเทศไทย โดยไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ในขณะที่ผู้ประกอบการไทยต้องรับภาระภาษี 7% ซึ่งส่งผลให้สินค้าไทยมีต้นทุนที่สูงกว่าและเสียเปรียบในการแข่งขันด้านราคา

"การแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ผู้ขายสินค้าต่างประเทศต้องจดทะเบียนและเสียภาษีมูลค่าเพิ่มนี้ จะช่วยสร้างความเป็นธรรมในการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการต่างประเทศ ทำให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันได้อย่างเท่าเทียมมากขึ้น" นายปิ่นสายกล่าว
 

ตอบโจทย์นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

มาตรการนี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงการคลังได้เร่งดำเนินการเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างรวดเร็ว สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการส่งเสริมและปกป้องผู้ประกอบการไทยจากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม

มาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น

นอกจากการแก้ไขกฎหมายแล้ว กรมสรรพากรยังจะบังคับใช้กฎหมายภาษีอย่างเข้มข้น เพื่อให้มั่นใจว่าการเสียภาษีมีความเท่าเทียมกันระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการต่างประเทศ โดยใช้เทคโนโลยีและข้อมูลในการติดตามตรวจสอบการทำธุรกรรมออนไลน์จากต่างประเทศอย่างละเอียด

"เรากำลังพัฒนาเครื่องมือในการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่า ผู้ประกอบการต่างประเทศที่ทำธุรกิจกับประเทศไทยปฏิบัติตามกฎหมายภาษีของไทยอย่างครบถ้วน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมในการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการไทยกับต่างประเทศอย่างแท้จริง"
 

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

การปรับปรุงการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสินค้ามูลค่าต่ำจากต่างประเทศจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น

• สร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ
• ช่วยให้ SMEs ไทยสามารถแข่งขันได้บนพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน
• เพิ่มรายได้ภาษีให้แก่รัฐ ซึ่งจะนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศต่อไป
• ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมและการผลิตภายในประเทศ

มาตรการนี้นับเป็นก้าวสำคัญของกระทรวงการคลังในการสร้างระบบเศรษฐกิจที่เป็นธรรม เอื้อต่อการเติบโตของ SMEs ไทย ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจประเทศ